สำหรับใครที่ช่วงนี้มีแพลนว่าอยากจะสร้างบ้านในฝันสักหลัก แล้วกังวลในเรื่องการ ยื่นกู้ วันนี้บิลค์ทีมมีความรู้ดีๆ จากธอส. สำหรับคนที่อยากยื่นกู้ สร้างบ้านว่ามีขั้นตอนอย่างไรบ้าง เป็นขั้นตอนการยื่นกู้ฉบับเข้าใจง่าย แม้มือใหม่ที่ไม่เคยลองยื่นกู้มาก่อน ก็สามารถศึกษาและนำไปทำตามกันได้เลย แต่ก่อนที่เราจะเข้าไปสู่เนื้อหา สิ่งที่ผู้กู้สินเชื่อต้องทราบก่อน นั่นก็คือ เกณฑ์การอนุมัติ สินเชื่อ ซึ่งผู้สมัครสินเชื่อนั้น ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป โดยสามารถเลือกระยะเวลาผ่อนชำระได้สูงสุดไม่เกิน 70 ปี นั่นหมายความว่า เมื่อนำอายุของผู้ยื่นกู้รวมกับระยะเวลาในการผ่อนชำระหนี้แล้วจะต้องไม่เกิน 70 ปีนั่นเองค่ะ หากอ่านมาถึงตรงนี้แล้ว สำหรับใครที่ผ่านเกณฑ์การอนุมัติขั้นพื้นฐานนี้ไปได้ ก็สามารถไปดูขั้นตอนการอนุมัติสินเชื่อข้อต่อไปได้เลยค่ะ ^^
ขั้นตอนการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ
1. ยื่นคำขอสินเชื่อที่สาขาธนาคาร
ผู้กู้สามารถดำเนินการง่ายๆ โดยยื่นคำขอสินเชื่อพร้อมเอกสารประกอบได้ที่สาขาธนาคารที่ทุกคนสะดวกได้เลยค่ะ พนักงานจะพิจารณาสินเชื่อเบื้องต้นจากข้อมูลการสัมภาษณ์ และเอกสาร เช่น รายได้ ค่าใช้จ่ายครอบครัว หนี้สินอื่นๆ เพื่อประเมินความสามารถในการผ่อนชำระของแต่ละคนซึ่งก็จะมีความแตกต่างกันออกไปค่ะ
2. สรุปวิเคราะห์และนำเสนอคำขอสินเชื่อพร้อมเอกสารประกอบเพื่อรอการพิจารณาอนุมัติ
หากพนักงานพิจารณาแล้ว ว่าเรามีความสามารถในการผ่อนชำระเงินงวดได้ตามวงเงินที่ยื่นขอสินเชื่อไว้ พนักงานจะส่งเรื่องต่อให้งานประเมินหลักทรัพย์ โดยจะมีเจ้าหน้าที่จากบริษัทประเมินราคา ติดต่อท่านเพื่อนัดหมายเข้าไปประเมินมูลค่าหลักประกัน ตามวันและเวลาที่เราสะดวก ภายใน 3 วันทำการ หลังจากที่เราได้ยื่นใบคำขอสินเชื่อแล้วค่ะ
หลังจากนั้นพนักงานสาขาจะทำการบันทึกข้อมูลลงในระบบตามการสัมภาษณ์ และเอกสารของเรา เช่น รายได้ ค่าใช้จ่ายครอบครัว หนี้สินอื่นๆ เพื่อส่งให้ผู้อนุมัติสินเชื่อพิจารณาต่อไป
โดยพิจารณาจาก
- วัตถุประสงค์ในการขอสินเชื่อ เช่น ซื้อที่ดินอาคาร ,ซื้อห้องชุด ,ไถ่ถอนจำนอง ฯลฯ
- คุณสมบัติผู้ขอกู้ เช่น สถานภาพ, การศึกษา, อาชีพ ฯลฯ
- ความสามารถในการผ่อนชำระสินเชื่อ
- ประเภทและมูลค่าของหลักประกัน
3. แจ้งผลการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ
ธนาคารจะติดต่อและแจ้งผลการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อให้เราทราบภายใน 7 วันทำการ นับจากวันที่ท่านยื่นใบคำขอสินเชื่อ พร้อมเอกสารประกอบ(ครบถ้วน) เพื่อเตรียมนัดวันทำสัญญาได้เลยค่ะ
4. ทำสัญญากู้เงิน และสัญญาจดจำนอง
หากใครที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อ ธนาคารจะนัดหมายท่านเพื่อทำสัญญากู้เงินที่สาขาของธนาคาร และนัดวันทำนิติกรรม ณ กรมที่ดิน ที่หลักประกันหรือโฉนดที่ดิน จดทะเบียนไว้
กรณีมีผู้กู้ร่วม หรือคู่สมรส อาจจะต้องนัดหมายให้บุคคลเหล่านั้นมาร่วมลงนามในสัญญาทุกฉบับ สำหรับค่าใช้จ่ายในวันทำสัญญา พนักงานธนาคารจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งในวันที่นัดหมายต่อไปค่ะ
เจ้าของโครงการและผู้รับเหมาที่เกิดการ Matching กันบนระบบ “BUILK Contractor Request” จะได้รับดอกเบี้ยราคาพิเศษ ในโครงการสินเชื่อบ้านสร้างสมใจ
สินเชื่อบ้านสร้างสมใจ
อัตราดอกเบี้ย
ปีที่ 1 = 2.80%
ปีที่ 2 = MRR-3.05% (3.150%)
ปีที่ 3 = MRR-2.65% (3.50%)
ปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญา
– สวัสดิการ = MRR-1.00%
– รายย่อย = MRR-0.50%
– อุปกรณ์ฯ = MRR
หมายเหตุ : ปัจจุบัน MRR ตามประกาศธนาคารเท่ากับ 6.15% ต่อปี
วัตถุประสงค์การให้กู้
- เพื่อปลูกสร้างอาคาร
- เพื่อซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร
- เพื่อต่อเติม / ขยาย / ซ่อมแซมอาคาร (Renovate)
- เพื่อไถ่ถอนจำนองที่ดินเปล่าจากสถาบันการเงินอื่น พร้อมปลูกสร้างอาคาร
- เพื่อไถ่ถอนจำนองที่ดินอาคารจากสถาบันการเงินอื่น และปลูกสร้าง/ต่อเติม/ขยาย/ซ่อมแซมอาคาร
- เพื่อซื้ออุปกรณ์พร้อมกับวัตถุประสงค์หลัก
สำคัญมาก !!
การติดต่อยื่นกู้ เอกสารที่ธนาคารต้องการคือ เอกสารแสดงรายได้ของผู้กู้ และเอกสารหลักประกัน เช่น แบบแปลน / ใบ BOQ / สัญญาว่าจ้างก่อสร้าง / ใบอนุญาตปลูกสร้าง สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ghbank.co.th/product-detail/sang-som-jai-64
สำหรับใครที่อยากจะยื่นกู้สร้างบ้านสักหลักแต่ยังไม่มีผู้รับเหมา สามารถเข้าไปหาผู้รับเหมาได้ที่ Contractor Request by BUILK ได้เลย นอกจากจะได้ผู้รับเหมาแล้วยังได้สิทธิพิเศษ กับสินเชื่อบ้านสร้างสมใจ ที่มีอัตราดอกเบี้ยพิเศษให้กับผู้ยื่นกู้ที่ Matching ผู้รับเหมาผ่าน Contractor Request อีกด้วย ใครที่ยังหาผู้รับเหมาไม่ได้ แนะนำเลยค่ะ
ค้นหาผู้รับเหมาคลิกปุ่มเขียวได้เลย>>