เมื่อเรากำลังมองหาวัสดุสำหรับงานตกแต่งภายใน หลายคนก็คงกำลังสงสัยว่า เราจะเลือกวัสดุอย่างไรให้เหมาะสมกับงานออกแบบตกแต่งของเรา วันนี้เราขอพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ 3 ประเภทวัสดุแผ่นบอร์ดที่เรามักใช้ในการตกแต่ง ซึ่งคุณสมบัติและวิธีการใช้งานเป็นอย่างไรบ้างนั้นไปชมกันเลยครับ
ประเภทของวัสดุที่นำมาใช้ในการเปรียบเทียบและคุณสมบัติเบื้องต้น
ไม้อัด (Plywood)
ไม้อัดมีหลายประเภท เช่น ไม้อัดกันน้ำใช้ในงานตกแต่งอาคารภายนอก ใช้ทำเรือ และอื่นๆ, ไม้อัดฟิล์มดำใช้สำหรับเป็นไม้แบบก่อสร้าง, ไม้อัดชั่วคราวใช้ทำป้ายหรืองานชั่วคราวอื่นๆ ,ไม้อัดแปรรูป LVL ใช้ทำโครงสร้าง, ไม้อัดดัดโค้งใช้ทำผนังหรือเคาน์เตอร์ที่มีความโค้งมน แต่สำหรับไม้อัดที่เราจะนำมาใช้เปรียบเทียบกับไม้เอชเอ็มอาร์ และยิปซั่มคือ ไม้อัดที่ใช้สำหรับทำเฟอร์นิเจอร์บิ้วท์อิน และงานตกแต่งภายใน
- ขนาดความหนามาตรฐานของไม้อัดจะมีตั้งแต่ประมาณ 3 – 20 มิลลิเมตร
- ขนาดแผ่น กxย 1.22 x 2.44 เมตร
- ลวดลายขึ้นอยู่กับชนิดของไม้ที่นำมาใช้เป็นผิวหน้า เช่น ไม้สัก ไม้แอช ไม้บีช
- ไม้อัดที่นำมาใช้งานควรผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน มอก. 178-2549
ไม้เอชเอ็มอาร์ (HMR: High Moisture Resistance Board)
ไม้เอชเอ็มอาร์นั้นมีเนื้อละเอียดคล้ายไม้เอ็มดีเอฟแต่มีคุณสมบัติทนชื้นได้ มีความหนาแน่นที่มากกว่าจึงแข็งแรงมากขึ้น และเหมาะสำหรับนำไปเซาะร่อง ฉลุลายเพื่อใช้ในการตกแต่ง
- ไม้เอชเอ็มอาร์มีหลายความหนาให้เลือกใช้คือ 2.6 ,4, 6, 12, 15, 18 และ 25 มิลลิเมตร
- ขนาดแผ่น กxย 1.23 x 2.45 เมตร และมีขนาดใหญ่สูงสุดถึง 4.8 เมตร
- ผิวไม้ละเอียดเนื้อแน่นมีสีเขียว
- ไม้เอชเอ็มอาร์ที่นำมาเลือกใช้ควรมีการรับรองมาตรฐานสากล V313
แผ่นยิปซั่ม (Gypsum Board)
แผ่นยิปซั่มมีหลายประเภทให้เลือกใช้ เช่น ยิปซั่มกันความร้อนมีฟรอยด์ด้านหลัง ใช้เพื่อช่วยสะท้อนความร้อน, ยิปซั่มกันเสียงหรืออะคูสติกใช้เพื่อช่วยดูดซับเสียง เช่น ห้องประชุม ห้องเรียน, ยิปซั่มดัดโค้งใช้ตกแต่งฝ้าเพดานหรือส่วนตกแต่งอื่นๆ สำหรับแผ่นยิปซั่มที่เราจะนำมาเปรียบเทียบการใช้งานกับไม้เอชเอ็มอาร์และไม้อัด คือ ยิปซั่มแผ่นเรียบสำหรับทำฝ้า, ยิปซั่มกันชื้นใช้ในห้องน้ำหรือพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่น สระว่ายน้ำในร่ม และยิปซั่มแบบเรียบที่ใช้ทำระบบผนัง
- แผ่นยิปซั่มมีความหนา 9, 12 และ 15 มิลลิเมตร
- ขนาดแผ่น กxย 1.20 x 2.45 เมตร
- ผิวหน้าเรียบ บางรุ่นมีขอบลาดเพื่อช่วยให้การโป๊วรอยต่อเรียบเนียนขึ้น
- แผ่นยิปซั่มที่ใช้ทำฝ้าต้องผ่านการทดสอบระดับ มอก. 219-2552
- แผ่นยิปซั่มที่ใช้ทำผนังต้องผ่านการทดสอบความแข็งแรงในระดับ Severe Duty (SD) ตามมาตรฐาน BS5234
คุณสมบัติในการทนความชื้น
ไม้อัด (Plywood)
ไม้อัดที่ใช้ทำเฟอร์นิเจอร์บิ้วท์อินทั่วไปนั้นไม่สามารถทนความชื้นได้ ดังนั้นหากต้องการใช้ไม้อัดในพื้นที่ที่มีความชื้นสูงในการทำเฟอร์นิเจอร์บิ้วท์อินหรือตกแต่งส่วนต่างๆ เช่นผนังตู้ ชั้นวางของ ควรเลือกใช้ไม้อัดรุ่นสำหรับใช้งานภายนอก ซึ่งมีคุณสมบัติกันน้ำได้ ทนแดดทนฝน โดยมีอัตราการบวมน้ำที่น้อยมากๆ แต่ข้อเสียคือมีราคาค่อนข้างสูง
ไม้เอชเอ็มอาร์ (HMR: High Moisture Resistance Board)
ไม้เอชเอ็มอาร์สามารถใช้ได้ในพื้นที่ที่มีความชื้นสูงโดยไม่บิด โก่ง บวม สามารถใช้ได้ในหลากหลายพื้นที่ เช่น ใช้เป็นตู้บิ้วท์อินในห้องน้ำส่วนแห้ง ทำเคาน์เตอร์ reception ห้องครัว แคชเชียร์ร้านอาหาร แต่ไม่ควรใช้ในบริเวณที่โดนน้ำโดยตรง และเนื่องจากไม้มีความแข็งแรงจึงสามารถติดตั้งบานพับ มือจับ หรือทำการตอกยึดไม้เอชเอ็มอาร์กับโครงสร้างได้ง่าย
แผ่นยิปซั่ม (Gypsum Board)
แผ่นยิปซั่มรุ่นมาตรฐานทั่วไปนั้นไม่สามารถโดนน้ำหรือทนความชื้นได้ เพราะจะทำให้แผ่นยิปซั่มบวม เสียรูป หากต้องการใช้งานในพื้นที่ที่มีความชื้นสูงให้เลือกใช้ยิปชั่มรุ่นทนชื้นที่สามารถใช้เป็นฝ้าหรือผนังในห้องน้ำได้ และหากต้องการทำฝ้าชายคาก็ต้องเลือกรุ่นที่ใช้สำหรับทำฝ้าชายคาโดยเฉพาะไม่สามารถนำแผ่นยิปซั่มรุ่นทนชื้นไปใช้แทนได้
แผ่นยิปซั่มถูกออกแบบมาให้ใช้เป็นฝ้าเพดานและใช้ทำผนังเท่านั้น ไม่ควรนำมาใช้ทำเฟอร์นิเจอร์บิ้วท์อินดังนั้นควรเลือกใช้วัสดุชนิดอื่นที่เหมาะสมแทน
การทำสีและการใช้วัสดุปิดผิว
ไม้อัด (Plywood)
ไม่นิยมปิดผิวด้วยวัสดุอื่น ใช้ทำเฟอร์นิเจอร์บิ้วอินท์ ผนัง ฝ้า ที่ต้องการโชว์ลายไม้ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดไม้ที่นำมาผลิต เช่น ไม้สัก ไม้บีช ไม้แอช มักทาสีย้อมไม้เพื่อเน้นลายหรือย้อมเสี้ยนไม้ให้ชัดเจนยิ่งขึ้นหรือทาแลคเกอร์ใสเพื่อเคลือบเนื้อไม้
ไม้เอชเอ็มอาร์ (HMR: High Moisture Resistance Board)
HMR ของอะโกรไฟเบอร์ ใช้ได้กับระบบสีสูตรน้ำมันทั่วไป และระบบสีพ่นอุตสาหกรรม Industrial lacquer ทั้งสูตรน้ำ (water) และสูตรน้ำมัน (oil) ผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน ASTM D3359 Method A (X-Cut)** จาก TOA โดยสูตรน้ำมันทั่วไปและสี IL สูตรน้ำผ่านมาตรฐานระดับสูงสุด 5A ส่วนสี IL สูตรน้ำมันผ่านมาตรฐานระดับ 4A และยังสามารถปิดผิวด้วยแผ่นไฮเพรสเชอร์ลามิเนตหรือแผ่นเมลามีนก่อนนำไปใช้งาน ทั้งนี้เพื่อเป็นการเพิ่มความสวยงามให้กับไม้และการตกแต่งให้เป็นไปตามที่ต้องการ
แผ่นยิปซั่ม (Gypsum Board)
ด้วยคุณสมบัติของยิปซั่มคือการฉาบรอยต่อให้เรียบเนียนได้ด้วยการโป๊ว นิยมใช้ทำฝ้าภายในอาคารที่ต้องการความเรียบเนียนของพื้นผิวและไม่ต้องการเห็นรอยต่อ โดยเฉพาะฝ้าที่มีขนาดใหญ่ หรือฝ้าที่มีดีเทลซ่อนไฟ เช่น ฝ้าดรอป ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้ปิดผิวด้วยวัสดุอื่นๆ เนื่องจากจะเห็นรอยต่อของวัสดุปิดผิว หากต้องการทำสีแนะนำให้ใช้วิธีการพ่นสีบนยิปซั่มหลังจากติดตั้งเรียบร้อยแล้วเพื่อให้ได้พื้นผิวที่เรียบเนียน
การเซาะร่องหรือทำลวดลายต่างๆ
ไม้อัด (Plywood)
ไม้อัดผลิตโดยการใช้แผ่นไม้บางๆ มาซ้อนทับกันหลายๆ ชั้น ดังนั้นจึงไม่เหมาะสำหรับการนำมาเซาะร่องหรือฉลุลายเนื่องจากจะทำให้ไม้หลุดออกมาเป็นชิ้นๆ ได้ รอยตัดที่เกิดขึ้นก็จะมีเสี้ยนไม่คม แต่สามารถนำมาตัดเป็นรูปทรงเรขาคณิตหรือรูปทรงอื่นๆ ที่ลวดลายไม่ซับซ้อนได้
ไม้เอชเอ็มอาร์ (HMR: High Moisture Resistance Board)
เนื่องจากการผลิตไม้เอชเอ็มอาร์นั้นเป็นการนำชิ้นไม้มาสับจนละเอียดแล้วผ่านกระบวนการอัดด้วยกาวและความร้อนสูงทำให้ไม้มีความละเอียดค่อนข้างมาก เหมาะที่จะนำไปใช้เซาะร่องเป็นลวดลายต่างๆ เพื่อทำผนังหรือฝ้าเพดาน 3d art หรือใช้ฉลุลายด้วยเครื่อง CNC
แผ่นยิปซั่ม (Gypsum Board)
แผ่นยิปซั่มผลิตโดยการใช้ผงแร่มาอัดแข็งแล้วปิดทับด้วยแผ่นกระดาษด้านหน้าและหลังแผ่น แม้ว่าจะสามารถตัดแต่งแผ่นได้ง่ายด้วยการใช้เพียงคัตเตอร์ แต่ก็ไม่ได้ถูกผลิตมาเพื่อใช้เซาะร่องเพราะเมื่อถูกเซาะร่องความหนาแผ่นจะน้อยลงทำให้แผ่นไม่แข็งแรงและกระดาษที่ปิดผิวจะขาดทำให้สูญเสียกำลังการรับแรงไป แผ่นจะแตกเสียหายเป็นอันตรายต่อการใช้งาน
จะเห็นได้ว่าวัสดุทั้ง 3 ประเภทนั้นมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไปตามลักษณะการใช้งานตามวัตถุประสงค์ของผู้ผลิต ดังนั้นก่อนการนำไปใช้งานจึงควรพิจารณาทั้งคุณสมบัติ รุ่นที่เหมาะสม และความสวยงามตามที่ต้องการ เช่น หากต้องการทำฝ้าหรือผนัง 3D art ควรเลือกใช้ไม้อัดเอชเอ็มอาร์ หรือในกรณีที่ต้องการทำเฟอร์นิเจอร์บิ้วอินในบริเวณที่มีความชื้นสูงก็ควรเลือกใช้ไม้อัดเอชเอ็มอาร์หรือไม้อัดสำหรับใช้ภายนอก แต่ให้พิจารณาเรื่องราคาประกอบกันไปด้วย
