ช่วงนี้เหมือนงานเงียบๆกว่าปีก่อน เจ้าของธุรกิจก่อสร้าง SMEs คงเหนื่อยวิ่งหาลูกค้ามากหน่อย หลายคนฝากผลงานไว้บนอินเตอร์เนต เพิ่มโอกาสมีลูกค้ามาเห็นงานออนไลน์อีกทาง นอกเหนือจากเห็นงานสดๆที่หน้าไซท์ระหว่างก่อสร้าง
เราสามารถฝากงานไว้บนอินเตอร์เนตได้หลายที่นะคะ ควรประชาสัมพันธ์ ฝากงานไว้ที่ไหนดีระหว่าง …สร้างเว็บไซต์เอง? ใช้ Facebook? ใช้ BUILK Company Profile?
สมัครสมาชิกเพื่อ ใช้ BUILK Company Profile ฟรี ที่นี่
หางานก่อสร้าง ทางอินเตอร์เนต
จะเลือกใช้ช่องทางไหน มันอยู่ที่ อะไรตรงกับความต้องการของธุรกิจมากที่สุด วิชาชีพก่อสร้างอย่างเราจำขึ้นใจอยู่แล้วว่า สร้างให้ตรงความต้องการ ให้ประหยัดทรัพยากร ประหยัดเวลาที่สุด จริงมั้ยคะ
แต่หลายครั้งก็ไม่มีเวลาหยุดคิดถึงความต้องการตัวเองจริงๆ มัววิ่งวุ่นอยู่หน้างาน บิลค์ทีม จึงรวบรวมความต้องการด้านต่างๆมาเป็นข้อมูลให้คิดคำนึง ก่อนลงแรง ลงเวลา
ขอนำมา เปรียบเทียบเฉพาะ Facebook และ BUILK Company Profile ไม่รวมการสร้างเว็บไซต์เองนะคะ เพราะการสร้างเว็บไซต์เองถึงจะยืดหยุ่น ปรับดีไซน์ เปลี่ยนฟังก์ชั่นได้ตามใจชอบ แต่มันตามมาด้วยความยุ่งยากที่เกินจำเป็นสำหรับผู้รับเหมา จ้างทำเว็บไซต์ ก็คล้ายจ้างผู้รับเหมาสร้างบ้านให้เรา (เริ่มเข้าใจความวุ่นวายหรือยังคะ) เมื่อสร้างเสร็จจะมีค่าใช้จ่ายต่อเนื่องทุกปีด้วย ตั้งแต่หลายพันถึงเหยียบหมื่น ที่สำคัญ ทำเว็บไซต์แล้วต้องคอยทำให้มีลูกค้าเข้าชม ขยันอัพเดทข้อมูลในเว็บไซต์ ไล่ตามเทคโนโลยีเรื่อยๆ การสร้างเว็บไซต์เองเหมาะกับคนที่มีทุน มีคนรับหน้าที่ดูแล
ส่วน Facebook และ BUILK Company Profile ดูจะเหมาะสมกับธุรกิจก่อสร้าง SMEs มากกว่า ทั้ง Facebook และ BUILK Company Profile สองอย่างนี้ตอบความต้องการเดียวกันคือ
- ประหยัดเงินทุนเริ่มต้น ไม่มีค่าใช้จ่ายต่อเนื่องตามมา ใช้ฟรี จะลงข้อมูลเท่าไหร่ก็ได้โดยไม่ถูกเก็บเงินเพิ่ม
- ประหยัดเวลาสร้างเว็บไซต์ อัพเดทเทคโนโลยี ไม่ต้องเปลืองเวลาดีไซน์หน้าตา หรือ นั่งคิดว่าในเว็บต้องมีอะไรบ้าง แค่กรอกข้อมูลในช่องว่าง ตามเทมเพลตที่คิดให้มาแล้ว ไม่ต้องตามอัพเดทเทคโนโลยี เพราะทั้ง Facebook และ BUILK Company Profile อัพเดททุกอย่างตามเทรนด์โลกเทคโนโลยีตลอด
- ประหยัดเวลา ประหยัดเงินจ้างทำ SEO (Search engine optimization) SEO คือเทคโนโลยีที่ทำให้เราเป็นผลการค้นหารเป็นอันดับต้นๆ ใน Google ค่ะ เมื่อมีใครค้นจาก Google ค่ะ ถ้าไม่มีตรงนี้ ความเสี่ยงคือ ทำเว็บไซต์แล้วไม่มีคนเข้ามาดู เพราะหาไม่เจอ กลายเป็นบ้านร้าง
นอกจากนี้ ความต้องการอื่นๆมีอะไรอีกบ้าง?
ความต้องการเรื่องการตลาด
หยิบเรื่องเกี่ยวกับลูกค้ามาเรื่องแรกแล้วกันค่ะ เพราะความต้องการพื้นฐานของเราคือ หางานก่อสร้าง หาลูกค้าเพิ่มเติมทางอินเตอร์เนต ดังนั้นอยากให้ถามตัวเองก่อน ต้องการตอบโต้กับลูกค้าหรือเปล่า? ต้องการความน่าเชือถือขนาดไหน?
เรื่องการตอบโต้กับลูกค้า
แน่นอนค่ะ Facebook ให้เราแชต ส่งสติ๊กเกอร์กับลูกค้าได้ทันใจ ใครมาถาม มาตอบ ใครมาไลค์รูป มือถือสั่นกึกๆเรียกให้เราคว้ามือถือมาพิมพ์ตอบ สังเกตดูว่าคำถามจะเป็นเรื่อง ราคาโครงการก่อสร้าง (บางทีก็ตอบไปแล้วในคอมเม้นท์ด้านบน จนอยากจะตอบว่า อ่านข้างบนหน่อยมั้ย?) นอกจากลูกค้า เราก็ได้พูดคุยกับเพื่อนร่วมสายอาชีพด้วย เวลาทำงานเหนื่อย ก็มีคนเชียร์ให้กำลังใจ มันรู้สึกดีเหมือนกันนะคะ มีอีกกลุ่มหนึ่งคือซัพพลายเออร์ มาคอยคอมเมนท์เสนอขายของ ในโพสเราบ่อยๆ (อันนี้ก็ดีค่ะ ได้รู้จักซัพพลายเออร์เพิ่ม แต่ดูผิดจุดประสงค์ไปนิด)
ส่วน BUILK Company Profile ยังไม่มีระบบสนับสนุนเรื่องการตอบโต้ พูดคุยทันที แบบนี้ค่ะ อดใจรออีกนิด
เรื่องการสร้างแบรนด์ สร้างความน่าเชื่อถือ
Facebook มีประเด็นกับเรื่องความน่าเชื่อถือซักหน่อย ก็สร้างง่ายนี่คะ ใครๆก็มีได้ เสกห้านาทีก็พร้อมออกสู่สายตาประชาชน มีตัวตนจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ถ้าอัพเดทบ่อยๆ ลงรูปภาพเสมอ ก็ช่วยให้น่าเชื่อว่ามีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้ หน้าตาแบบนี้ ทำงานอยู่ทุกวัน วันนี้อยู่ที่นี่ที่นั่น มาหาได้ ไม่หนีไปไหนนะ
BUILK Company Profile มีป้ายบอกสถานะให้เพิ่มเติม ว่าเป็น PRO Network หรือ Verify คลิกดูรายละเอียดป้ายบอกสถานะที่นี่ เพิ่มความน่าเชื่อถือในสายตาผู้ว่าจ้าง บางครั้งมีคนถามหาผู้รับเหมา ผู้รับเหมาช่วงมาทางบิลค์ทีม ทางนี้ก็ค้นจากโปรไฟล์ดีๆน่าเชื่อถือจากสมาชิกเราแนะนำไปให้
ความต้องการด้านดีไซน์ ฟังก์ชั่น
เรื่องการออกแบบหน้าตา ดีไซน์ ความสวยงาม
ทั้งสองที่ เราไม่สามารถเปลี่ยนดีไซน์ หน้าตาการออกแบบอะไรได้ทั้งนั้น
แต่เรื่องจัดระเบียบข้อมูล BUILK Company Profile เหมาะกับผู้รับเหมาเรามากกว่าค่ะ เพราะ BUILK Company Profile แยกให้ลูกค้าเห็นผลงานเป็นโครงการชัดเจน หาตัวอย่างงานเจอแน่ๆ ลองนึกถึงใจลูกค้านะคะ เวลาเค้ามาดู Facebook เค้าจะหาตัวอย่างงานเจอยากหน่อย มีรูปไม่เกี่ยวข้อง รูปอาหาร รูปหน้าไซท์ที่ยังดำเนินการอยู่ เยอะแยะไปหมด
ฟังก์ชั่นการวัดผล ด้านการตลาด
ธุรกิจนี่คะ ทำอะไรควรวัดผลเป็นตัวเลขชัดเจน วัดผลการตลาดออนไลน์แบบเบสิกๆคือ นับจำนวนคนดู เราดูผลจำนวนคนดูใน Facebook Page กับ BUILK Company Profile ได้นะคะ มีคนดูเพจกี่คน คนดูผลงานกี่คน แต่ถ้าใครใช้ Facebook ตัวเองจะไม่มีทางรู้ตัวเลขนี้จริงๆ นับได้แต่ Like
ไล่ไปลึกกว่านั้นอีกหน่อย วัดดู ลููกค้าที่โทรเข้ามา ที่จ่ายเงินเรามา เค้ารู้จักเรามาจากทางไหน? ไล่ไปลึกกว่านั้นอีกหน่อย วัดดู ลููกค้าที่โทรเข้ามา ที่จ่ายเงินเรามา เค้ารู้จักเรามาจากทางไหน?
วัดได้แล้ว เอาไปวิเคราะห์ ปรับปรุงต่อ ให้ หางานก่อสร้าง ได้จากออนไลน์
ฟังก์ชั่นพิเศษจากบิลค์ สำหรับธุรกิจก่อสร้างเท่านั้น ***อัพเดทใหม่ พร้อมใช้ กรกฎาคม 2015***
เพราะบิลค์เกิดมาเพื่อทำให้ธุรกิจก่อสร้างเติบโต เราจะได้แอพพลิเคชั่นที่ออกแบบสำหรับผู้คนวงการก่อสร้างใหม่ ไม่ก็ของเดิมเวอร์ชั่นใหม่ ทุกอาทิตย์
ล่าสุดเป็น Company Profile ที่พิมพ์ออกมาเป็นเอกสารได้ บางครั้งไปเสนองานลูกค้า ไม่มีอินเตอร์เนต หนีบเอกสารโปรไฟล์บริษัทนี้ไปแทนการเปิดในเว็บไซต์จะเวิร์กกว่า อีกอย่างประหยัดเวลาทำเอกสารด้วย เพราะก่อนหน้านี้เราอาจต้องใช้ Microsoft Word กว่าจะจัดหน้า เพิ่มรูปถ่าย กินเวลาไปเยอะ ถ้าใครใช้บิลค์สร้างเว็บไซต์ไว้แล้ว ให้คลิกที่ปุ่มพิมพ์โปรไฟล์เท่านั้น
สรุปว่าจะใช้อะไร หางานก่อสร้าง ทางอินเตอร์เนตดี
จะเลือกใช้ช่องทางไหนมันอยู่ที่ อะไรตรงกับความต้องการของธุรกิจมากที่สุดค่ะ ที่แน่ๆ ธุรกิจก่อสร้างเราต้องการประหยัดเงิน ประหยัดเวลา ประหยัดแรง ทั้งติดตั้งและดูแลรักษา ถ้ามองด้านการตลาด ถามว่า ต้องการตอบโต้ ชวนลูกค้าคุยไหม? สร้างความน่าเชื่อถือหรือเปล่า? แล้วถ้ามองด้านฟังก์ชั่น เราอยากให้มันทำอะไรให้เราได้บ้างกันแน่?
เลือกได้หรือยังคะ จะใช้อะไร หางานก่อสร้าง ทางอินเตอร์เนตดี? Facebook หรือ BUILK Company Profile ..หรือทั้งสองที่?
บทความที่เกี่ยวข้อง (คลิกที่ภาพเพื่ออ่านต่อ)
เกี่ยวกับ บิลค์ทีม
บิลค์ทีม เป็นทีมงานทุกคนในบิลค์ เราอยากสร้าง สังคมผู้รับเหมาคุณภาพของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ช่วยธุรกิจรับเหมาก่อสร้างลดต้นทุน ประหยัดเวลา ด้วยการสร้าง โปรแกรมควบคุมต้นทุน ให้ผู้รับเหมาใช้ฟรี นอกจากโปรแกรมแล้ว เราก็ทำอะไรอย่างอื่นที่เราพอจะคิดออกไปเรื่อยๆ..เพื่อให้ผู้รับเหมามีชีวิตที่ดีขึ้น
