เราสร้างเมืองด้วยการก่อสร้าง เปลี่ยนป่าเป็นพื้นที่เกษตร พัฒนาต่อเป็นเมือง มีอาคารบ้านเรือน ให้ผู้คนอยู่อาศัยทำมาหากิน แต่ดูเหมือนพัฒนาแล้วอยู่ไม่ค่อยสบาย ปัญหาสิ่งแวดล้อมเริ่มใกล้ตัว ที่เห็นชัดๆคืออากาศร้อนขึ้นทุกปี มีฝุ่นละอองขนาดเล็กเป็นอันตราย หากสถานการณ์แย่ลงเรื่อยๆ อีก 10ปี 20ปี จะเป็นอย่างไร
ปัญหาสิ่งแวดล้อมเกิดจากการพัฒนาเมืองหรือเปล่า? และธุรกิจก่อสร้างจะเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสได้ไหม?
ย้อนเวลากลับไปสมัยก่อน คนยังพยายามสร้างบ้านเรือนให้เข้ากับสภาพแวดล้อม สภาพอากาศ ภูมิประเทศ แต่จุดเปลี่ยนอยู่ตรงที่ การปฏิวัติอุตสาหกรรมในยุโรปที่ต้องการใช้ประโยชน์จากที่ดินในเมืองให้สูงที่สุด จึงเกิดระบบอาคารขึ้นมา มีน้ำ แสงสว่าง การระบายอากาศ ด้วยการใช้เครื่องจักร ไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงสภาพแวดล้อม อากาศ น้ำ แสง ดิน อีกต่อไป อากาศร้อนก็เปิดเครื่องปรับอากาศ มืดก็เปิดไฟ กลายเป็นว่าอาคารบ้านเรือนในยุคหลังต้องการพลังงานไฟฟ้าตลอดเวลา และการผลิตไฟฟ้านั้นสร้างก๊าซเรือนกระจก เพิ่มอุณหภูมิให้โลก ให้เราเจออากาศร้อนขึ้นเรื่อยๆ
นอกจากผลผลิตงานก่อสร้างแล้ว กระบวนการงานก่อสร้างก็ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน ตั้งแต่การเคลียร์พื้นที่สีเขียวในตอนแรก ไปจนถึงเหลือขยะงานก่อสร้างเมื่อจบงาน
ภาพ lauraperuchi.com
Sustainable Development การพัฒนาแบบยั่งยืน
แต่อย่างไร เราก็ยังขยายเมืองกันต่อไป แต่เราคงปล่อยให้สิ่งแวดล้อมแย่ลงเรื่อยๆต่อเนื่องไปถึงรุ่นต่อๆไปไม่ได้เช่นกัน เลยเกิดความพยายามลดผลกระทบจากการพัฒนาเมือง ออกมาเป็น “การพัฒนาแบบยั่งยืน” Sustainable Development ซึ่งมีคำจำกัดความว่า “การพัฒนาเพื่อให้โอกาสแก่คนรุ่นปัจจุบันดำรงชีวิตอยู่ได้โดยไม่ไปปิดโอกาสในการดำรงชีวิตของคนรุ่นหลัง” ส่วนของงานก่อสร้าง มีกระแสทั้ง Sustainable Architecture และ Sustainable Construction ออกมา แต่ความหมายและแนวทางปฏิบัติก็ยังคลุมเครือ
Green Buiding งานก่อสร้างที่ลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม
สุดท้าย องค์กร USGBC (U.S. Green Building Council) ในสหรัฐอเมริกา สร้างเกณฑ์สำหรับการประเมินงานก่อสร้างที่ลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมเรียกว่า LEED ย่อมาจาก Leadership in Energy and Environmental Design โดยมีแนวความคิดคือ
- พยายามทำให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด ทั้งในช่วงการก่อสร้างและระหว่างการใช้งานอาคาร
- ประหยัดพลังงาน ประหยัดน้ำ
- ใช้ทรัพยากรที่เกี่ยวข้องกับอาคารอย่างมีประสิทธิภาพ
- ใหห้ความสำคัญกับสุขภาพและความสบายของผู้ที่อยู่ในอาคาร
โดยที่ใช้แนวคิดนี้ตลอดทั้งช่วงอายุของอาคารนั้น ซึ่ง Leed ก็มีระบบการให้คะแนนสำหรับโครงการหลากประเภท ตั้งแต่ งานอาคาร งานตกแต่ง บ้านพัก หรือแม้กระทั่งงานวางผังชุมชน รวมคะแนนออกมาเป็นระดับ Certified(40-49 คะแนน) , Silver(50-59 คะแนน), Gold(60-79คะแนน), Platinum(80คะแนน+)
งานก่อสร้าง Green Building ในไทย
การก่อสร้างตามมาตรฐานอาคารเขียวไม่ได้มีแต่ในเมืองนอก เจ้าของโครงการหลายแห่งในประเทศไทยก็สร้างอาคารโดยอิงมาตรฐานอาคารเขียวด้วย โดยเฉพาะอาคารที่สร้างให้ลูกค้าที่มีกำลังซื้อ ซึ่งแม้ว่าการก่อสร้างลักษณะนี้จะมีต้นทุนจะสูงกว่าปกติ แต่เจ้าของโครงการก็เลือกเพราะเนื่องจากประโยชน์ในระยะยาวควบคู่ไปกับประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อม อันได้แก่ ค่าใช้จ่ายระหว่างใช้อาคารลดลง เช่น ค่าพลังงาน ค่าน้ำ และ ได้ค่าเช่าสูงขึ้น เพราะอาคารคุณภาพดีกว่า เป็นที่ต้องการของตลาด นอกจากนี้ยังได้ภาพลักษณ์ที่ดี ใช้เป็นจุดขายได้ด้วย
ภาพ scgbuildingmaterials
ธุรกิจรับเหมาของคุณสร้างงานตามมาตรฐานอาคารเขียวได้หรือเปล่า?
เราล้วนได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อมที่แย่ลง กระแสงานก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเริ่มมาเรื่อยๆ ทั้งโครงการที่ต้องการมาตฐาน Leed หรืออาจจะเล็กลงมาเป็นบ้านประหยัดพลังงาน โครงการประเภทนี้ใช้งบประมาณในการก่อสร้างสูงกว่าปกติ และยังใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญในการประเมินวางแผนก่อสร้างเพิ่มเติมขึ้นมา
หากมีลูกค้าที่หาผู้รับเหมาที่สามารสร้างแบบ Green Buiding แล้วคุณจะรับงานมูลค่าสูงกว่าตลาดนี้ได้หรือเปล่า?
ติดอาวุธความสามารถสร้าง Green Buidling รับงานมูลค่าสูงได้ที่นี่