2021 กับการเดินทาง ปีที่ 11 ของ BUILK ONE GROUP ที่ไม่ว่าจะผ่านร้อนผ่านหนาวมาไม่รู้กี่ครั้ง แต่ก็ยังคงก้าวต่อไป และเติบโตขึ้นเรื่อยๆ
จากการวางฐานรากของแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อวงการ ก่อสร้าง ไทย ที่พร้อมจะเป็นระบบสำหรับวงการก่อสร้าง ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ทั้งในกลุ่มผู้รับเหมาขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ รวมไปถึงร้านค้าวัสดุก่อสร้าง และ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์
ซึ่งตอนนี้ BUILK ONE GROUP วางฐานรากเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่เริ่มขุดหน้าดิน ลงเสาเอก ก็พร้อมรับการต่อยอดที่มั่นคง ประกาศรับการลงทุนจากพันธมิตรอย่าง Beacon VC บริษัทร่วมลงทุนของธนาคารกสิกรไทย ในรอบ Series B ร่วมกับนักลงทุนเชิงยุทธศาสตร์อีก 3 ราย ได้แก่ 1. Addventure by SCG 2. Rosewoord VC และ 3. CRE-FUL
ที่จะเป็นอีกก้าวสำคัญที่ทำให้ BUILK พร้อมต่อยอดจากสิ่งที่มี พัฒนาเทคโนโลยีอย่างเต็มรูปแบบ และ ก้าวเข้าสู่ผู้นำแพลตฟอร์มด้าน ConTech และ FinTech ในระดับเอเชีย
การเดินทางที่สร้างประสบการณ์มากมายของ BUILK ONE GROUP
คุณไผท ผดุงถิ่น ได้กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2010 BUILK ก็ได้เปลี่ยนแปลงตัวเองจากบริษัท SMEs เข้าสู่การเป็น Startup เริ่มเปิดตัว ซอฟแวร์ให้บริการฟรี สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง กลุ่ม SMEs ที่จะเป็นตัวช่วยในการบริหารต้นทุนงานก่อสร้าง
จากที่เริ่มต้น แบบยังไม่รู้ว่าจะหารายได้จากบริการนี้อย่างไร ตั้งแต่วันนั้น จนถึงวันนี้ 11 ปีผ่านไป BUILK เติบโตจากที่มีพนักงานไม่กี่คน ไปจนถึงร้อยกว่าคน เป็นการเดินทางที่สร้างประสบการณ์มากมายให้กับ BUILK ซึ่งหนึ่งในนั้น ก็คือ สถานการณ์การแพร่ระบาดของ เชื้อไวรัสโควิด-19 จนเรียกได้ว่าเป็น วิกฤตการณ์โควิด-19 ที่สร้างความขรุขระให้กับเส้นทางการเดินทางของ BUILK
เมื่อเจอเส้นทางที่ขรุขระ แต่เราต้องก้าวข้ามเพื่อเดินต่อ BUILK เรียนรู้จากประสบการณ์ที่เคยได้ผ่านมา สู่การสร้างวัคซีน 2 เข็มสำคัญให้กับตัวเอง ปรับตัวรับ New Normal ก้าวผ่านวิกฤตการณ์โควิด-19 ไปได้ แบบที่เรายังอยู่กันครบไม่ต้องเอาคนออกจากการเดินทาง
วัคซีนเข็มแรก ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันจากภายใน คือ การควบคุมต้นทุนอย่างใกล้ชิด บริหารต้นทุนให้สอดคล้องกับสิ่งที่เกิดขึ้น ระมัดระวังการใช้จ่าย เพราะมีปัจจัยที่เราก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก ยกระดับมาตรฐานการจัดการภายในให้ครอบคลุม
วัคซีนเข็มที่สอง ก็คือ Flexibility การสร้าง Business Model ที่ยืดหยุ่น เพราะ BUILK ONE GROUP รวมเป็นหนึ่งได้ ก็เกิดจากการมีกลยุทธ์สร้างโปรดักส์ หรือผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ขยายโอกาสใหม่ ๆ ให้กับตัวเอง เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้ก้าวต่อไปได้
ร้อยเรียงโปรดักส์เสริมความแกร่งแบบ BUILK ONE
กว่าจะเป็น BUILK ONE GROUP ได้อย่างทุกวันนี้ บริษัทได้ขยาย New Talent ขึ้นมา เพิ่มโอกาสใหม่ๆให้กับตัวเอง ทำให้เรามีโปรดักส์ หรือ ผลิตภัณฑ์ อยู่ทั้งหมด 6 ตัว
ตั้งแต่พี่ใหญ่พจมาน “Pojjaman” ที่ทุกวันนี้เรียกว่า พจมาน2 “Pojjaman2” ระบบ ERP เต็มรูปแบบ สำหรับธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง เหมาะสำหรับบริหารธุรกิจรับเหมาก่อสร้างขนาดกลาง-ใหญ่
ตามมาด้วย BUILK โปรแกรมควบคุมต้นทุนก่อสร้างออนไลน์ Builk.com ทำขึ้นมาเพื่อผู้รับเหมา SMEs ได้ใช้งานฟรี เพราะเราอยากจะเปลี่ยนฐานรากของอุตสาหกรรม ที่เป็นผู้รับเหมา SMEs ที่อาจจะไม่ค่อยมี Education หรือ ไม่ได้มีระบบระเบียบในการจัดการสักเท่าไหร่ สามารถมาใช้งานระบบได้ฟรี และยังคงใช้งานฟรีมาตลอด 11 ปี จากความตั้งใจเดิมที่ยังต่อเนื่องมาถึงทุกวันนี้ และเชื่อว่าจะยังฟรีต่อไป
แต่เราต้องหา Business Model มาให้ผู้รับเหมาให้ได้ เพราะถ้าเขาทำงานแล้วเข้มแข็งขึ้น เขาก็พร้อมที่จะใช้ซอฟต์แวร์ตัวอื่นของเราเอง ทำให้เกิด JUBILI by BUILK ระบบ CRM ที่เดิมเป็นระบบ CRM เพื่อร้านวัสดุก่อสร้าง แต่ปัจจุบันเราเห็นโอกาส และเลือกที่จะปรับให้เป็น Non Construction เพื่อกระจายความเสี่ยงที่เรามี และผลตอบรับจากวงการอื่นๆค่อนข้างที่จะดีมากทีเดียว เพราะเราได้เข้าไปเป็นส่วนในการ Digital Tranformation ธุรกิจ B2B อื่นๆ เช่น Health Care , Packaging , โรงงานอุตสาหกรรมใหญ่ หรือแม้กระทั่งวงการอาหาร
แล้วเราก็ได้ทำ E-Commerce สำหรับขายวัสดุก่อสร้างขึ้นมา ชื่อว่า YELLO ร้านวัสดุก่อสร้างออนไลน์ แบบ B2B ผู้ช่วยฝ่ายจัดซื้อ หาวัสดุก่อสร้างราคาถูก ทันใจ เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งใน Supply Chain
พร้อมขยับขยายเข้าสู่วงการอสังหาริมทรัพย์ ด้วย PLOY ระบบ CRM สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ขาย-สร้าง-โอน และ KWANJAI ระบบบริหารงานแจ้งซ่อม และติดตามบริการ ซ่อมบำรุงอาคาร ซึ่งเชื่อว่าเป็นต้นน้ำของอุตสาหกรรม เพราะเจ้าของโครงการที่กำลังสร้างบ้าน สร้างคอนโด แล้วขาย เราก็มีระบบไปช่วยเขาบริหารงานขาย บริหารงานแจ้งซ่อม บริหาร Service ของอาคารเหล่านั้นหลังจากที่สร้างเสร็จ
อีกก้าวสำคัญของ BUILK ONE GROUP สู่การเป็นผู้นำด้าน ConTech และ FinTech
เรามีคำถามว่าฐานรากมีความแข็งแรงสำหรับธุรกิจเรา แล้วก็อุตสาหกรรมได้หรือยัง ผลประกอบการปีที่แล้ว ซึ่งเรามีรายได้จาก 2 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 คือเราทำซอฟแวร์ให้กับคนต่างๆในอุตสาหกรรมมีรายได้ประมาณ 70 ล้านบาทต่อปี และส่วนของ E-Commerce ขายวัสดุก่อสร้างให้กับคนที่ใช้โปรแกรมเราในธุรกิจต่างๆ เป็น E-Commerce ที่ไม่มีหน้าร้าน เราใช้ Data Driven ทำยอดขายได้ประมาณ 500 ล้านบาทต่อปี
วันนี้ก็เป็นสตาร์ทอัพที่โตในระดับนึง ยอดขายประมาณ 570 บาทต่อปี ฐานรากที่ทำ เราว่ามันก็ควรจะเสร็จได้แล้ว ซึ่งปีที่แล้วผลประกอบการเราก็เป็นบวก ทำกำไร เรากำลังมุ่งเป้าทำ Step ถัดไป ก็คือการขยายให้เข้มแข็งขึ้น และสูงขึ้น เราจึงเปิดตัว 3 แพลตฟอร์ม ที่พร้อมต่อยอดด้าน ConTech และ FinTech
BUILK 360 แพลตฟอร์มที่จะเข้าไปช่วยผู้รับเหมาตรวจไซต์งานก่อสร้างได้แบบ 360 องศา ลดการเข้าไซต์งาน ลดความเสี่ยง Covid-19 และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการติดตามหน้างาน ซึ่งตอนนี้ได้มีการเริ่มใช้งานแล้วกับผู้รับเหมาขนาดใหญ่ ในโครงการชั้นนำของประเทศไทย สนใจดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิก <
BUILK INSITE แพลตฟอร์มที่จะช่วยตรวจคุณภาพงานก่อสร้าง เพิ่มประสิทธิภาพการติดตามวัสดุในโครงการ การตรวจงานระบบ เน้นงานเช็คลิสต์เพื่อผู้รับเหมา ซึ่งจะแตกต่างจาก BUILK 360
BUILK Bill Loader แพลตฟอร์มต่อยอดจาก “พจมาน 2” ระบบ ERP ที่เปรียบเสมือนกระดูกสันหลังของธุรกิจก่อสร้าง โดยจะเข้าไปช่วยจัดการงานเอกสารทั้งการวางบิล ระบบเซ็นเอกสาร จัดส่งให้ Supplier เป็นการเชื่อมโยง Supply Chain ระหว่างผู้รับเหมา ธนาคาร และผู้ค้าไว้บนแพลตฟอร์มเดียว
BUILK ONE GROUP จะก้าวต่ออย่างมั่นคง | จากการสร้างฐานรากสู่การต่อยอด
ครั้งนี้ 24 มีนาคม 2021 จึงเป็นอีกก้าวสำคัญของ BUILK ONE GROUP ( บริษัท บิลค์ วัน กรุ๊ป จำกัด ) ที่ได้ประกาศรับการลงทุนจาก Beacon VC บริษัทร่วมลงทุนของธนาคารกสิกรไทย ในรอบ Series B ร่วมกับนักลงทุนเชิงยุทธศาสตร์อีก 3 ราย ได้แก่ 1. Addventure by SCG 2. Rosewoord VC และ 3. CRE-FUL ที่ได้เห็นถึงศักยภาพการพัฒนาแพลตฟอร์ม เพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง จาก BUILK ONE GROUP และผู้ใช้งานของเรา ว่า BUILK ONE GROUP นั้นพร้อมที่จะพัฒนาซอร์ฟแวร์ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง และก้าวเป็นผู้นำในระดับ South East Asia
BUILK ยังเชื่อว่า ถ้าจะเจอวิกฤติครั้งถัดไป เราก็รอดได้ เพราะบทเรียนจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ทำให้เรามีวัคซีนสำคัญ 2 เข็ม เข็มแรก คือ เรื่องการบริหารจัดการต้นทุนภายใน เรามีระบบ Real Time Monitoring ที่มาช่วยควบคุม Cost ได้ดี ไม่แพ้บริษัทใหญ่ วัคซีนเข็มที่สอง คือ เรื่อง Flexibility เรามี Businesss Model ที่ยืดหยุ่น ทำให้นี่คือ Key success ของเรา
หลังจากนี้ BUILK ยังมีเป้าหมายที่ว่า เราอยากทำ Story ของ TECH START UP ไทย ในแบบของเรานะครับ เราคิดว่าเราเป็นบริษัทที่ทำกำไรได้แล้ว เป้าของเราเราอยากเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทย และตลาดอื่นในเวลาอันใกล้ วันนี้หลังบ้านเราเคลียร์กันเรียบร้อย ทำเรื่องการเงิน เรื่องบัญชี วางรากฐานที่แข็งแกร่งได้แล้ว ซึ่งเราจะก้าวไปสู่เป้าถัดไป ก็คือการเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์อย่างแน่นอน
สุดท้ายนี้ ที่เราเริ่มต้นจากการมีระบบพื้นฐาน การบริหารต้นทุนโครงการก่อสร้าง วันนี้ BUILK โปรแกรมควบคุมต้นทุนก่อสร้าง หรือเรียกว่าเป็น Mini ERP ที่ช่วยผู้รับเหมา SMEs กว่า 30,000 บริษัท เรากำลังบอกว่า หลังจากที่ทำระบบให้เป็นดิจิตอลแล้ว ถึงเวลาต่อยอดธุรกิจของคุณ เสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของคุณได้แล้ววันนี้
เพิ่มประสิทธิภาพการติดตามหน้างาน ควบคุมคุณภาพ ประสานงานผู้เกี่ยวข้อง ตรวจไซต์งานก่อสร้างได้แบบ 360 องศา เหมือนไปเดินเอง ได้ด้วย BUILK360
หรือ จากผู้รับเหมาขนาดเล็กที่ใช้ BUILK บริหารต้นทุนโครงการก่อสร้าง ต้องการเติบโตสู่ผู้รับขนาดกลาง-ใหญ่ ใช้ พจมาน2 ระบบ ERP เต็มรูปแบบ