การพบกันครั้งนี้ของ Construction United ต่างออกไปจากทุกครั้ง เราไม่ได้เจอกันใน กิจกรรมอบรมระบบควบคุมต้นทุนงานก่อสร้าง เหมือนเคยแต่เราเจอกันที่สุวรรณภูมิ! สมาชิก 35 คน มาจากทุกภาคทั่วไทย.. เชียงใหม่ ภูเก็ต พิษณุโลก นครพนม ก็มี และแน่นอนว่า Pro Network ผู้รับเหมามืออาชีพของ BUILK อย่าง เชียงใหม่รับสร้างบ้าน และ อาทิตย์วงศ์ คอนสตรัคชั่น ได้รับสิทธิร่วมทริปนี้ในราคาพิเศษ
ทัวร์ครั้งแรกจัดออกมาโหดอยู่สักหน่อย โปรแกรมแน่นเอี้ยดตลอด 3 วัน 2 คืน ชะโงกวัด สลับไซท์ก่อสร้าง ขนาดเวลารถติดยังเชิญแขกมาพูดบนรถไม่ให้เสียเวลาไปเปล่า ตกกลางคืนก็ Ice Breaking ละลายพฤติกรรมผสมโซดาน้ำ กันตามประสาผู้รับเหมา
ที่พิเศษสุดๆน่าจะเป็นแขกรับเชิญที่มาแชร์เรื่องราวอินไซท์ เริ่มด้วยสาระเน้นๆ เรื่องปัจจัยภายนอกในการทำธุรกิจในเมียนนมาร์จาก คุณชัยณรงค์ กีรติยุตวงศ์ อุปฑูตไทย ประจำเมือ
P.E.S.T. พม่า ปัจจัยภายนอกที่ผู้รับเหมาควรรู้
คุณชัยณรงค์ กีรติยุตวงศ์ อุปฑูตไทยประจำเมือ
ควรติดตามข่าวการเมืองอย่างใกล้ชิด ถึงแม้จะได้รัฐบาลใหม่ก็ไม่ได้หมายความว่าเมียนมาร์จะมีเสถียรภาพในทันที แต่บรรยากาศการเมืองโดยรวมมีแนวโน้มที่ดีขึ้นตามลำดับ อย่างไรก็ตามความไม่สงบจากชนกลุ่มน้อย และการเปลี่ยนผ่านระหว่างกลุ่มอำนาจเก่า-ใหม่ และการเรียกร้องสิทธิจากกลุ่มนักเคลื่อนไหวต่างๆ
ระบบเศรษฐกิจเพิ่งเป็นระยะเริ่มต้น ค่าเงินจ๊าด (Kyat) ยังมีความผันผวน ระบบการชำระเงินส่วนใหญ่ยังเป็นเงินสดเป็นกระสอบๆ ยังไม่มีเงินกู้หรือบัครเครดิต เพิ่งเริ่มมีการผ่อนบ้าน แต่กลุ่มคนรวย มีกำลังซื้อสูงมาก จากการทำธุรกิจจากทรัพยากรธรรมชาติ
ในด้านสังคม มีชนชั้นแรงงานเยอะ ค่าแรงขั้นต่ำประมาณร้อยบาทต่อวัน ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไม่ใช่ตลาดแบบเมืองไทยที่เป็นชนชั้นกลางและมีอายุสูงขึ้นเรื่อยๆ 30-40 กว่า ในเมียนมาร์มีโครงการ Low-Cost คล้ายบ้านเอื้ออาทร กลุ่มลูกค้าเป็นเป็นคนหนุ่มสาวโดยเฉพาะภาคแแรงงานที่กำลังสร้างตัวกันอยู่ โครงสร้างประชากรนี้จะกลายเป็นโอกาสในอนาคตช่วง 5 ปีข้างหน้า นอกจากนี้คนไทยน่าจะได้เปรียบชาติอื่นในเรื่องความเข้าใจสภาพสังคมเมียนมาร์ ซึ่งคล้ายกับสังคมไทยเมื่อราว 20-30 ปีก่อน ในเรื่องความเป็นเมืองพุทธเหมือนพม่า มีความเชื่อเรื่องบาปเรื่องบุญ เป็นวัฒนธรรมที่ฝรั่งไม่มีและคนจีนไม่เข้าใจทำให้เราใช้ความเป็นพุทธเข้าใจกันได้
เทคโนโลยีการสื่อสารไปเร็วกว่าเมืองไทยมาก เปิด 3G 4G พร้อมกัน แต่ติดปัญหาคือเรื่องไฟฟ้าเพราะว่าไฟดับทุกวันแม้แต่สนามบิน บางทีดับทั้งเขต วันละหลายครั้ง อาคารสำนักงานต่างๆ ต้องออกแบบพื้นที่ด้านหน้าไว้วางเครื่องปั่นไฟ อีกเรื่องคือเทคโนโลยีสีเขียวที่รัฐบาลใหม่ประกาศส่งเสริมอย่างชัดเจน
และปิดท้ายให้ว่า การเข้ามาทำธุรกิจอะไรที่พม่าก็ตาม จะรู้เฉพาะธุรกิจของตัวเองไม่พอ ควรศึกษาปัจจัยภายนอกตรงนี้เอาไว้ด้วย
ประสบการณ์ตรงจาก ธุรกิจก่อสร้างสัญชาติไทยในพม่า
บิลค์พาขบวนผู้รับเหมาไทยดูงาน ก่อสร้าง พม่า ที่โครงการ Kan Thar Yar Project ซึ่งเป็นคอนเพลกซ์ขนาดใหญ่ของย่างกุ้ง ประกอบด้วย Serviced Apartment ออฟฟิศ โรงแรม และห้างสรรพสินค้า โดยมีแขกรับเชิญตัวจริง จากแวดวงธุรกิจก่อสร้างเมียนมาร์ นำโดยอ.ภิรวดี ชูประวัติ จาก Project Man และ คุณจอห์น ตัวแทนนักธุรกิจไทยผู้นำเข้าวัสดุก่อสร้างมาทำตลาดในเมียนมาร์ คุณชัช ผู้รับเหมาก่อสร้างไทยในพม่า รวมถึงผู้บริหารจาก SCG ในเมียนมาร์ร่วมกันแชร์เรื่องราวกันตามประสาคนก่อสร้าง
เจ้าของโครงการมักเป็นเศรษฐีใหม่ที่รวยมาจากการขายทรัพยากรธรรมชาติและที่ดิน ยิ่งในบางบริเวณมูลค่าที่ดินกระโดดไป ตร.วา ละ 2-5 ล้าน คนกลุ่มนี้มีเงินเย็นมากถึงขนาด ยอดขาย ยอดจอง ไม่ได้เป็นปัจจัยต่อการตัดสินใจสร้างเลย อย่าง Kan Thar Yar Project ที่เราไปดูกันเป็นคอนโดมีเนียม 4 ตึก ตึกละ 20 กว่าชั้น ตึกแรก ขายได้เพียง 20% แต่โครงสร้างเสร็จไปแล้ว คนกลุ่มนี้ต้องการโครงการระดับ High-End ไปจ้างดีไซเนอร์ ไทย สิงคโปร์ ออกแบบ แต่ด้วยความที่ไม่ใช่เจ้าของโครงการมืออาชีพ แบบที่ได้เลยห่างจากมาตรฐานอยู่เยอะ เจอปัญหาแบบไม่ชัด ไม่เคลียร์ งานดีเลย์ ผู้รับเหมาจะเหนื่อยหน่อย
นอกจากงานที่พักอาศัย อาคารสูง จากเศรษฐีใหม่ ก่อสร้าง เมียนมาร์ ยังโตจากสาธารณูปโภค และเขตเศรษฐกิจพิเศษติลาวา นิคมอุตสาหกรรมที่มีประเทศญี่ปุ่นมาร่วมลงทุน ยังมีตลาดที่ยังไม่ได้รับการตอบสนองอีกเยอะ แต่ถ้าขยับช้าก็อาจจะคว้าไม่ทันเช่นกัน งาน ก่อสร้าง พม่า การแข่งขันสูง มีคู่แข่งจากทั่วโลกเข้ามา ไต้หวัน สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ เวียดนาม ฯลฯ สำหรับธุรกิจก่อสร้างจากไทยถูกมองว่ามีมาตรฐานค่อนข้างสูง ออกแบบดี คุณภาพดี อยู่ในระดับคุณภาพเดียวกับสิงคโปร์ แต่ราคาสมเหตุสมผล แต่ตลาดบนของเมียนมาร์ไม่ต้องการของถูก เพราะมีกำลังซื้อสูงจริงๆ ถ้าจะแข่งขันควรใช้เทคนิคว่า ดีที่สุดตรงไหน เพราะเจ้าของโครงการในในเมียนมาร์ไม่ได้สนใจเรื่องราคาเท่าไหร่นัก เงินมี ขอของดีที่สุดไว้ก่อน ที่สำคัญ ต้องระวังคือ นายหน้าตัวปลอม เข้ามาแอบอ้างว่ามาโครงการใหญ่ในเมียนมาร์แล้วขอค่าดำเนินการก่อน
พม่าผลิตวัสดุก่อสร้างเองไม่ได้ นำเข้าจากจีนหรือไทยอยู่ เทคนิควิศวกรรมหรือเทคโนโลยีการก่อสร้างก็เพิ่งเริ่มยังใช้ปูนโครงสร้างฉาบกันอยู่ ขนาดโครงการสูง 32 ชั้นยังใช้เทคโนโลยีเสา-คาน-พื้น เพิ่งมีรถปูน คนที่จะรับเหมาที่นี่ใช้สูตรแบบที่เมืองไทยไม่ได้เลย ไม่มีหินแกรนิต ไม่มีหินกรวด เทคโนโลยีการก่อสร้างเป็นสาเหตุให้งานดีเลย์ และอย่าลืมด้วยว่าที่นี่เป็นเขตแผ่นดินไหว การออกแบบจะไม่เหมือนเมืองไทย ทุกอย่างจะ Overdesign พอนำเข้าวัสดุด้วย ยิ่งทำให้ค่าวัสดุแพงขึ้นไปอีก 50% ผู้รับเหมาช่วงบางงาน ที่ต้องการใช้ฝีมือหน่อยก็นำเข้าจากไทยเช่นกัน เช่นงานติดกระจก งานระบบที่ซับซ้อน เป็นต้น
สำหรับคนที่พร้อมเข้าไปทำธุรกิจที่พม่า คนนอกถือหุ้นได้ 80% จำเป็นต้องมีพาร์ทเนอร์ท้องถิ่น ควรเลือกพาร์ทเนอร์อย่างใจเย็น คนพม่าไม่ได้เป็นสังคมแข่งขัน เงินก็เย็น ไม่ตั้องมีแบงค์มาเป็นตัวกำหนดการตัดสินใจ ดังนั้นต้องใช้ความอดทนสูงในการตกลงกัน ถ้าเป็นไปได้ให้ไปกับกลุ่มคนไทยที่พร้อมจะช่วยเหลือ เช่น สมาคมนักธุริกจไทย แบงค์ สถานฑูต หรือ เครือข่ายผู้ใช้งาน BUILK ในเมียนมาร์ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนย้ายเงินเข้าออก ค่าเงิน ภาษี มีความเสี่ยงเยอะ ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ทำธุรกิจในเมียนมาร์ อย่าคิดเล่นสั้นๆ มาขุดทองแล้วไป ให้มองเป็นการลงทุนระยะยาว สร้างอนาคตที่นี่ คล้ายกับคนจีนหอบเสื่อผืนหมอนใบมาสร้างตัวในเมืองไทยอย่างไรอย่างนั้น
3วัน 2คืน เจอเพื่อนร่วมทางคอเดียวกัน สมาชิกได้พาร์ทเนอร์ธุรกิจกันบ้าง ไปกันเป็นคณะกับบิลค์แบบนี้ทำให้มีโอกาสอินไซท์ จบทริปเราได้ยินเสียงโหวตว่าอยากไปกัมพูชากันต่อเดือนหน้า
สมัครสมาชิกติดตามข่าวกิจกรรมครั้งต่อไปได้ ที่นี่
เกี่ยวกับ บิลค์ทีม
บิลค์ทีม เป็นทีมงานทุกคนในบิลค์ เราอยากสร้าง สังคมผู้รับเหมาคุณภาพของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ช่วยธุรกิจรับเหมาก่อสร้างลดต้นทุน ประหยัดเวลา ด้วยการสร้าง โปรแกรมควบคุมต้นทุน ให้ผู้รับเหมาใช้ฟรี นอกจากโปรแกรมแล้ว เราก็ทำอะไรอย่างอื่นที่เราพอจะคิดออกไปเรื่อยๆ..เพื่อให้ผู้รับเหมามีชีวิตที่ดีขึ้น
