นายช่างของแผ่นดิน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นดั่ง นายช่างของแผ่นดิน ทรงโปรดงานด้านการช่างพิเศษ ตั้งแต่ในสมัยทรงพระเยาว์ทรงนำสิ่งของที่เหลือใช้ภายในพระตำหนักที่ประทับเท่าที่จะหาได้ เช่น ไม้แขวนเสื้อมาสร้างรถไฟฟ้าแล่น มอเตอร์ไฟฟ้าสำหรับทำให้รถไฟแล่นก็ทรงประดิษฐ์เอง โดยเอาลวดทองแดงมาพันเข้าเป็นแกนกลางของเครื่องมอเตอร์ ในพระตำหนักจะเต็มไปด้วยเครื่องมือช่างไม้ เครื่องช่างกล และสิ่งของที่ทรงสนพระทัย ทรงเป็นนักประดิษฐ์คิดค้นชั้นเลิศ เห็นได้จากสิ่งต่าง ๆ ที่พระองค์ทรงประดิษฐ์ หรือมีพระราชดำริให้จัดทำขึ้น
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงฉายแววแห่งพระปรีชาสามารถในเทคโนโลยีด้านช่างกล ตั้งแต่ทรงพระเยาว์วัยโดยทรงสามารถแก้ไขจักรเย็บผ้าที่ชำรุดของพระพี่เลี้ยงให้กลับใช้การได้ดังเดิม
ทดลองระบบไฟฟ้าสายเดียว
ขณะทรงพระเยาว์ พระชนมพรรษา ๑๐ พรรษา ทรงพระปรีชาสามารถประกอบเครื่องรับวิทยุขึ้นใช้เอง และเมื่อพระชนมพรรษาเพียง ๑๑ พรรษา ทรงพระปรีชาสามารถทดลองระบบไฟฟ้าสายเดียว โดยทรงใช้ลวดทองแดงเส้นเล็กๆสายเดียวเสียบเต้ารับไฟฟ้าบนพระตำหนัก โยงสายลงมาที่สนาม และทรงต่อกับรถไฟฟ้าของเล่นรถไฟฟ้าของพระองค์ก็วิ่งในสนามได้โดยไม่ต้องใช้สายไฟฟ้า 2 สาย แต่ทรงใช้พื้นดินเป็นสายที่สองครบวงจรไฟฟ้า
จำลองเรือรบหลวงศรีอยุธยา เรือใบมด และเรือบิน
ทรงพระปรีชาสามารถมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์เช่นกัน ดังปรากฏว่าทรงจำลองหรือรบหลวงศรีอยุธยา เรือใบมด และเรือบิน ทั้งยังได้พระราชทานเรือรบหลวงศรีอยุธยาจำลองและเรือบินจำลองให้นำไปประมูลนำรายได้มาเป็นทุนการกุศล
วางกระดูกงูเรือ ต.๙๑ ณ กรมอู่ทหารเรือ
จากการที่ทรงเล่นเรือกระดาษ เป็นการฉายแววพระอัจฉริยภาพด้านงานช่าง ซึ่งเป็นที่ประจักษ์ให้เห็นเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปทรงวางกระดูกงูเรือ ต.๙๑ ณ กรมอู่ทหารเรือ สำหรับเรือรักษาฝั่ง ต. ๙๑ เป็นเรือที่กองทัพเรือต่อขึ้นตามแนวพระราชดำริ เทื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๐ ที่จะให้กองทัพเรือสามารถออกแบบและต่อเรือรบคุณภาพได้เอง
“ทางคู่ขนานลอยฟ้า” ถนนบรมราชชนนี
จากการที่ทรงเล่นรถไฟจำลอง เมื่อครั้งประทับอยู่ ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แสดงให้เห็นแววพระอัจฉริยภาพด้านการคมนาคมในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพราะในเวลาต่อมาทรงเสด็จพระราชดำเนินไปทรงวางศิลาฤกษ์ “ทางคู่ขนานลอยฟ้า” ถนนบรมราชชนนี เมื่อวันที่ ๑๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๓๙ ซึ่งสร้างขึ้นตามแนวพระราชดำริอีกเช่นกันในการบรรเทาปัญหาการจราจรในกรุงเทพมหานครฝั่งธนบุรี
กังหันชัยพัฒนา
ตอนเด็กทรงเล่นของเล่นต่างๆ ฉายแววพระอัจฉริยภาพด้านงานประดิษฐ์ พระองค์ทรงมีความคิดสร้างสรรค์มาตั้งแต่ทรงพระเยาว์เมื่อเจริญพระชนมพรรษาทรงประดิษฐ์ “กังหันชัยพัฒนา” ที่ทรงออกแบบคิดค้นวิธีการของพระองค์เองวิธีการของกังหันก็คือ การหมุนน้ำให้น้ำได้รับออกซิเจนทำให้เน่าเสียคืนสู่สภาพเดิมและสามารถนำกลับมาใช้งานได้ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากต่อประเทศไทย ทรงได้รับสิทธิบัตรจาการประดิษฐ์กังหันน้ำชัยพัฒนา อันเป็นเครื่องมือในการเติมออกซิเจนลงในน้ำ เมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๓๖ ซึ่งเป็นสิ่งประดิษฐ์เครื่องกลเติมอากาศเครื่องที่ ๙ ของโลกที่ได้รับสิทธิบัตร
เรือใบ
อีกหนึ่งสิ่งประดิษฐ์ที่ทรงประดิษฐ์ขึ้นให้คนทั้งโลกประจักษ์ถึงพระอัจฉริยภาพในด้านการช่างที่อดกล่าวถึงไม่ได้คือ “การประดิษฐ์เรือใบ” เนื่องจากโปรดกีฬาเรือใบเป็นอย่างยิ่ง จึงได้ทรงศึกษาค้นคว้ารูปแบบการสร้างเรือใบด้วยพระองค์เองไว้ถึง ๓ ประเภท ดังนี้
๑. เรือใบประเภทเอ็นเตอร์ไพรซ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงต่อเรือใบสำเร็จเป็นวันแรก เมื่อวันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๐๗ พระราชทานชื่อว่า “ราชประแตน” หลังจากนั้นทรงต่อเรือใบยประเภทนี้อีกพระราชทานชื่อว่า “เอจี” เป็นเรือที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงต่อแบบสากล
๒. เรือใบโอเค พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงต่อเรือใบประเภทโอเคลำแรก ในปี ๒๕๐๘ พระราชทานชื่อว่า “นวฤกษ์” เรือใบประเภทโอเคเป็นเรือใบที่พระองค์ทรงต่อไว้หลายลำและพระราชทานชื่อไว้เช่น เวคา ๑ , เวคา ๒ , เวคา ๓
๓. เรือใบประเภทม็อธ เรือใบที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงออกแบบและทรงต่อด้วยพระองค์เองในระหว่าง พ.ศ. ๒๕๐๙ – ๒๕๑๐ มีอยู่ ๓ แบบ ซึ่งได้พระราชทานชื่อดังนี้ เรือใบมด เรือใบซูเปอร์มด และเรือใบไมโครมด ซึ่งในขณะทรงดำรงสิริราชสมบัติ ทรงต่อเรือใบมดขึ้นเอง และทรงใช้ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ทรงชนะเลิศได้รับรางวัลเหรียญทอง
พระราชกรณียกิจนานัปการที่ทรงบำเพ็ญตลอดระยะเวลากว่า ๗๐ ปี นับแต่เสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติตราบจนปัจจุบัน แสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพด้านการช่างและการวิศวกรรมของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เห็นได้จากผลงานจากฝีพระหัตถ์ ที่ทรงไว้ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ และพระราชกรณียกิจต่างๆ ที่เกื้อหนุนการสร้างสรรค์การช่าง แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความสนพระราชหฤทัย และพระอัจฉริยภาพในงานช่างและการวิศวกรรม จนได้กลายเป็นโครงการและสิ่งประดิษฐ์ต่างๆมากมายที่สร้างประโยชน์อย่างยิ่งแก่ประเทศชาติและประชาชนชาวไทยอย่างแท้จริง ( อ้างอิงจากบทความของคุณหญิงกุลทรัพย์ เกษแมนกิจ )
สถิตในดวงใจตราบนิจนิรันดร์ น้อมศิระกราน กราบแทบพระยุคลบาท ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
เป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้
ข้าพระพุทธเจ้า บริษัท บิลค์ เอเชีย จำกัด ขอร่วมสืบสานพระราชปณิธานด้านงานช่าง เดินตามรอย
เบื้องพระยุคลบาทตลอดไป