บริษัทรับเหมาก่อสร้างชั้นนำในภาคอีสาน ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี สร้างบ้านไปแล้วมากกว่า 500 หลัง
คุณแม็กซ์ (อุดม แสนอุบล) กรรมการผู้จัดการ บริษัท เนเจอร์ เอซเทท จำกัด จ.สกลนคร ผู้ที่ดูตั้งแต่การบริหารภาพรวมขององค์กร และขั้นตอนการรับสร้างบ้านทั้งหมด เริ่มตั้งแต่งานขาย งานก่อสร้าง งานวิศวกรรม แม้กระทั่งการเตรียมเอกสารยื่นกู้ให้กับลูกค้า ผมมีความคิดและมุ่งเน้นพัฒนางานวงการก่อสร้างของไทยให้เป็นที่ไว้วางใจ จริงใจต่อกันและกันในทุกๆด้าน กับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายทั้ง สถาปนิก วิศวกร ที่ปรึกษา ช่างก่อสร้างที่มีฝีมือ ร้านค้า ธนาคาร และ ลูกค้า ให้สื่อสารกันอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้ได้มาซึ่งคุณภาพ ราคา ระยะเวลา ในระดับสูงสุด เหนือกว่าในทุกระดับ…กับความลงตัวในทุกรายละเอียด เพื่อการอยู่อาศัยอย่างแท้จริงครับ
COVID-19 ส่งผลกระทบกับธุรกิจอย่างไรบ้าง
ผมจะแบ่งผลกระทบออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกก็คือ ยอดขาย ส่วนนี้ไม่ค่อยได้รับผลกระทบมาก เพราะ ระยะเวลาการสร้างบ้านแค่ละหลังจะอยู่ที่ 6-10 เดือน ซึ่งก่อนที่ COVID-19 จะมา มีลูกค้าติดต่อเข้ามาหาเราเยอะพอสมควร ทำให้ไม่กระทบยอดขายมากนัก แต่จะกระทบกระบวนการทำงานของเรามากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการซื้อของ การเลือกวัสดุ แต่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือ การยื่นขอสินเชื่อให้ลูกค้า เนื่องจากธนาคารไม่สามารถออกมาหาลูกค้าได้ นั่นหมายความว่าลูกค้าจะไม่สามารถยื่นกู้สินเชื่อได้ เรามองว่าถ้าเป็นแบบนี้ไม่ดีแน่ๆ เราจึงเข้าไปเป็นตัวกลางระหว่างลูกค้ากับธนาคาร
เราเข้าไปช่วยลูกค้าในเรื่องการยื่นกู้ มีการเช็ควงเงินการยื่นกู้ให้กับลูกค้า เบื้องต้นลูกค้าเงินเดือนประมาณนี้ จะสามารถกู้ได้เท่าไหร่ โดยอาศัยข้อมูลจากหน้าเว็บไซต์ของแต่ละธนาคาร ในการประเมิน Pre-Approve เบื้องต้น ลูกค้าเราคือคนต่างจังหวัด ดังนั้นเรื่องออนไลน์เขาจะไม่ถนัด พอเรายื่นมือเข้าไปช่วย ทำให้การยื่นกู้เป็นไปด้วยความรวดเร็วขึ้นครับ
ลูกค้าส่วนใหญ่กู้กับธนาคารไหน
หลักๆแล้วของ Nature Estate จะมีอยู่ประมาณ 3 ธนาคาร ส่วนใหญ่แล้ว 90 เปอร์เซ็นต์ของลูกค้าที่สร้างด้วยเงินกู้ จะยื่นกู้กับ ธอส. เป็นหลักครับ ปีนึงเราสร้างบ้านประมาณ 45 หลัง ราคาเริ่มต้นที่ 2-5 ล้านบาท มูลค่ารวมประมาณ 160 ล้าน แบ่งเป็นลูกค้าที่สร้างบ้านด้วยเงินสด 63 ล้านกับลูกค้าที่สร้างบ้านด้วยเงินกู้โดยยื่นกู้กับ ธอส.ประมาณ 85 ล้าน และอีก 12 ล้านคือยื่นกู้กับธนาคารอื่น
ทำไมลูกค้าที่สร้างบ้านด้วยเงินกู้ส่วนใหญ่ตัดสินใจยื่นกู้กับ ธอส.
บริษัทเราเป็น Pro User ของ BUILK และ BUILK เป็น Partner กับทาง ธอส. ลูกค้าที่ต้องการสร้างบ้านกับเราจึงได้ดอกเบี้ยอัตราพิเศษ “สินเชื่อบ้านสร้างสมใจ” ตอนนี้ ธอส. อนุมัติสินเชื่อเร็วมาก และระยะเวลาผ่อนชำระ สามารถยืดหยุ่นได้ ทำให้ลูกค้าที่ต้องการสร้างบ้าน ตัดสินใจยื่นกู้กับ ธอส. จำนวนมาก
รู้จักระบบ Contractor Request ได้อย่างไร
ผมเริ่มจากการเป็น User ของ BUILK ก่อนเลยครับ รู้จัก BUILK มาหลายปีแล้ว สมัยก่อนเวลาจัดอบรม GO BUILK ผมก็ไปเรียนครับ พอใช้บิลค์ไปเรื่อยๆ ทางบิลค์เค้าก็จะมีการพัฒนาโปรแกรมไปเรื่อยๆ จนล่าสุดมีการพัฒนาระบบที่ชื่อว่า Contractor Request ออกมาที่ทำร่วมกับธอส. เป็นระบบที่ช่วยค้นหาผู้รับเหมาในการจะสร้างบ้านหรือต่อเติมต่างๆ ผมก็ไม่รอช้า ลองเข้าไปสมัครใช้ดูเลยครับ คิดว่า COVID-19 ก็มาในช่วงนี้ ถือโอกาสเพิ่มฐานลูกค้าให้ตัวเองเลยละกันครับ
ระบบ Contractor Request ใช้งานอย่างไร ยากไหมสำหรับผู้เริ่มต้น
ตอนแรกเราก็ยังไม่รู้ครับว่าระบบมันจะหน้าตาเป็นอย่างไร แต่สำหรับผู้รับเหมาที่เป็นสมาชิกบิลค์อยู่แล้วผมว่าไม่ยากเลยครับ ก่อนอื่นถ้าใครยังไม่ได้เป็นสมัครเป็นสมาชิกบิลค์ ให้สมัครก่อนครับ แล้วถึงจะเปิดรับงานบนระบบ Contractor Request ได้ ซึ่งเค้าก็จะถาม Requirement เบื้องต้นของเราะแหละครับว่าเรารับสร้างงานแบบไหน สร้างใหม่ หรือเป็นงาน รีโนเวท รับงานประเภทไหน บ้านเดี่ยว อาคารพาณิชย์ หรือโรงงาน มูลค่าเท่าไหร่ จังหวัดอะไร ซึ่งข้อมูลพวกนี้จะมีผลต่อการ Matching ครับ เพราะเวลาเจ้าของบ้านเค้าค้นหามา เค้าต้องใส่ข้อมูลพวกนี้ รวมงบประมาณการสร้างด้วย ซึ่งข้อมูลพวกนี้ก็จะมีผลต่อการประเมินสินเชื่อเบื้องต้นของทางธอส.ด้วยครับ
ลูกค้าที่มาจากระบบ Contractor Request เป็นอย่างไรบ้าง
พอเปิดรับงานไปงานไปสักพัก ก็เริ่มมีเจ้าของบ้านติดต่อสนใจอยากสร้างบ้านในแถบสกลนครและจังหวัดใกล้เคียงมาครับ เจ้าของบ้านก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกผู้รับเหมาและติดต่อกลับไป ส่วนผู้รับเหมาก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกร่วมงานกับเจ้าของบ้านได้เหมือนกันครับ ผมก็ว่ามันแฟร์ๆดี พอเราเลือกสนใจร่วมงานแล้ว ก็มีเจ้าของบ้านติดต่อโทรมาคุย คุยแล้วถ้าเค้าตกลงเลือกเราเป็นผู้รับเหมา ขั้นต่อไปก็คุยรายละเอียดกับเรา ไม่ว่าจะเป็นแบบบ้าน BOQ ต่างๆ ถ้าเรื่องโครงสร้าง งานออกแบบก็จบที่เราครับ แต่ถ้าเรื่องยื่นกู้ ผมก็จะให้คำแนะนำเค้าเรื่องเตรียมเอกสารต่างๆ ในการยื่นกู้ แล้วก็จะมีทางธอส.เป็นที่ปรึกษาเรื่องการกู้ให้อีกทีครับ อันนี้ก็จะทำให้ลูกค้าดำเนินการได้ง่ายขึ้นมากๆเลยครับ
ระบบ Contractor Request ดีอย่างไร
ผมว่าดีระบบนี้เป็นเหมือนประตูเปิดโอกาสให้กับเรานะครับ จริงๆถือว่าเปิดโอกาสให้ทั้งกับผู้รับเหมา และเจ้าของบ้านเลยครับ อย่างเจ้าของบ้านเค้ามีโอกาสที่จะเข้าถึงเลือกผู้รับเหมาได้มากขึ้น โดยที่ไม่ต้องไปหาถึงบริษัท คุยรายละเอียด ดูโปรไฟล์ได้ว่าที่ผ่านมารับงานอะไรไปแล้วบ้าง เหมือนเป็นการสกรีนความน่าเชื่อถือมาแล้วเบื้องต้นครับ ส่วนผู้รับเหมาครับ ผมว่าเป็นโอกาสที่จะให้เราเปิดรับงานมากกว่าทางเดียว ได้ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ เมื่อก่อนของเราจะจากทางออฟไลน์อย่างเดียว ยิ่งเศรษฐกิจแบบนี้ด้วย พอมี Contractor Request มา เราก็เหมือนมีตัวเลือกเยอะขึ้นด้วยครับ ประกอบกับการที่มีทางธอส. เป็น Partner เจ้าของบ้านก็แฮปปี้เรื่องอัตราดอกเบี้ยครับ ถือว่าวินวินทั้งคู่เลยครับ
สินเชื่อบ้านสร้างสมใจ
อัตราดอกเบี้ย
ปีที่ 1 = 2.80%
ปีที่ 2 = MRR-3.05% (3.150%)
ปีที่ 3 = MRR-2.65% (3.50%)
ปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญา
– สวัสดิการ = MRR-1.00%
– รายย่อย = MRR-0.50%
– อุปกรณ์ฯ = MRR
หมายเหตุ : ปัจจุบัน MRR ตามประกาศธนาคารเท่ากับ 6.15% ต่อปี
วัตถุประสงค์การให้กู้
- เพื่อปลูกสร้างอาคาร
- เพื่อซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร
- เพื่อต่อเติม / ขยาย / ซ่อมแซมอาคาร (Renovate)
- เพื่อไถ่ถอนจำนองที่ดินเปล่าจากสถาบันการเงินอื่น พร้อมปลูกสร้างอาคาร
- เพื่อไถ่ถอนจำนองที่ดินอาคารจากสถาบันการเงินอื่น และปลูกสร้าง/ต่อเติม/ขยาย/ซ่อมแซมอาคาร
- เพื่อซื้ออุปกรณ์พร้อมกับวัตถุประสงค์หลัก
สำคัญมาก !!
การติดต่อยื่นกู้ เอกสารที่ธนาคารต้องการคือ เอกสารแสดงรายได้ของผู้กู้ และเอกสารหลักประกัน เช่น แบบแปลน / ใบ BOQ / สัญญาว่าจ้างก่อสร้าง / ใบอนุญาตปลูกสร้าง สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ghbank.co.th/product-detail/sang-som-jai-64
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม: 083-842-1352 คุณโฟต