อะไรคือ “ New Normal สำหรับธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ”
New Normal อาจจะเป็นคำศัพท์ใหม่ของหลายๆคน แต่สำหรับบางคนก็คงเคยได้ยินมาบ้างแล้ว ซึ่งคำว่า New Normal ก็ปรียบเสมือนการเกิดภาวะปกติแบบใหม่ หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือ สิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ อาจจะทำให้กลายเป็นเรื่องปกติหลังจากนี้
New Normal คืออะไร? ทำไมเริ่มมีการพูดถึง?
แล้วทำไมอยู่ดีๆตอนนี้ก็เกิด New Normal หรือความปกติแบบใหม่ขึ้นมา สาเหตุก็ได้รับผลกระทบมาจาก การแพร่กระจายเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกนั่นเอง เพราะไม่ว่าส่วนไหนก็ได้รับผลกระทบไปหมด จนทำให้พฤติกรรมของทุกคนต้องปรับเปลี่ยน และจนอาจกลายเป็นเรื่องปกติ
เช่น การ Work From Home ของคนทำงาน ก็กลายเป็นสิ่งที่จำเป็นมากขึ้น เพราะทุกคนต้องมีการ Social Distancing เมื่อได้ปรับพฤติกรรมการทำงานเป็นลักษณะนี้ ก็เริ่มกลายเป็นพฤติกรรมการทำงานแบบปกติมากขึ้น ส่วนตัวอย่างเรื่องเศรษฐกิจของคำว่า New Normal ก็เสมือนว่า ก่อนหน้านี้เศรษฐกิจเคยเติบโตขึ้นเรื่อยๆมาตลอด จนได้รับผลกระทบจากวิกฤติการณ์โควิด-19 เศรษฐกิจก็เริ่มย่ำแย่ จนทุกคน ทุกอุตสาหกรรมต้องปรับพฤติกรรม ปรับตัวเพื่อให้อยู่รอด และคาดว่าวิกฤตนี้จะส่งผลกระทบระยะยาว จนการปรับตัวครั้งนี้จะกลายเป็นสิ่งที่ทำกันเป็นปกติต่อไปนั่นเอง
และด้วยปัญหาวิกฤตโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลก Pojjaman ร่วมกับ BUILK จึงได้เชิญ คุณวรินทร์ ศรีมหาโชตะ กรรมการบริหารฝ่ายจัดซื้อ บริษัท คอนสตรัคชั่น ไลนส์ จำกัด มาแชร์เทคนิคการปรับตัว “ New Normal สำหรับธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง” ว่าควรจะมีการปรับตัวอย่างไรเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอด
โครงการก่อสร้างควรมีการป้องกันโควิด -19 ได้อย่างไร?
ในเรื่องการปฏิบัติตัวที่ทางบริษัทมีการวางแผนกรณีต่างๆขึ้นมา ควรมีการอธิบายให้กับทีมงานในบริษัท และผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับรู้ แล้วเข้าใจถึงสถานการณ์ต่างๆให้ได้ ส่วนวิธีการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 ในองค์กร ควรมีกระบวนการการคัดกรองก่อนเข้าทำงานอย่างไรบ้าง ได้แก่
- วิเคราะห์ความเสี่ยงของแต่ละไซต์งาน กรณีที่ผู้รับเหมามีการรับงานหลายไซต์ การวิเคราะห์ความเสี่ยงรอบด้านที่คาดว่าจะเกิด จะทำให้สามารถวางแผนป้องกันได้
- ต้องมีการกำหนดความเสี่ยงของแต่ละสถานการณ์ เมื่อได้มีการวิเคราะห์โดยรวมแล้วก็ต้องกำหนดระดับความเสี่ยงด้วย ตัวอย่างเช่น
ระดับ 1 สถานการณ์ฉุกเฉินระดับสีเขียว กรณีมีประกาศจากภาครัฐให้เฝ้าระวัง
ระดับ 2 สถานการณ์ฉุกเฉินระดับสีเหลือง พบกลุ่มเสี่ยง ที่ต้องเฝ้าดูอาการภายในหน่วยงาน
ระดับ 3 สถานการณ์ฉุกเฉินระดับสีส้ม พบผู้ติดเชื้อภายในหน่วยงาน แต่สามารถควบคุมผู้ติดเชื่อ และผู้มีความเสี่ยงได้ และมีประกาศจากภาครัฐให้ปิดพื้นที่เสี่ยง แต่ยังไม่กระทบ เรื่องการทำงานในหน่วยงาน
ระดับ 4 สถานการณ์ฉุกเฉินระดับสีแดง พบผู้ติดเชื้อภายในหน่วยงาน และเกิดการแพร่กระจายเชื้อ มีประกาศควบคุมการเข้าออกที่พัก กระทบต่อการทำงาน หรือมีการสั่งหยุดงานเพื่อกักตัว - มีการคัดกรองประจำวัน ตรวจอุณภูมิร่างกาย มีเจลฆ่าเชื้อทำความสะอาด ทั้งที่ออฟฟิศและไซต์งาน
ทิศทางเศรษฐกิจหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร? ผู้รับเหมาต้องรับมืออะไรอีกบ้าง?
นอกจากการวางแผนปรับตัวในองค์กร เพื่อป้องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว เรื่องการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับงานก่อสร้างที่จะเกิด และต้องเตรียมตัวก็ยังต้องมีอีกหลายเรื่องที่ต้องปรับกันอยู่ เพราะการแข่งขันในตลาดก่อสร้างสูงมากในช่วงนี้ ด้วยที่ทุกๆองค์กรต้องการงานมาเพื่อเลี้ยงธุรกิจให้เดินต่อได้
อย่างเศรษฐกิจในมุมมองของคุณวรินทร์ ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ หรือคอนโด สภาพแย่ที่กำลังเกิดขึ้น ซึ่งก็คาดว่าน่าจะซบเซาไปอีกประมาณ 18 เดือนนับจากนี้ เพราะสินค้าถูกผลิตหรือสร้างขึ้นมาพร้อมกัน ซัพพลายล้นตลาด ต้องรอระยะเวลาระบายออก ดังนั้น ตัวผู้รับเหมาจะต้องประเมิน ปรับแผนให้รอบคอบ และถูกต้อง ตั้งเป้าหมายในการลดต้นทุน เพื่อเตรียมรับมือ หรือผู้รับเหมาบางรายอาจจะเริ่มมองหารูปแบบงานใหม่ๆ ที่เหมาะสมกับตัวเองมากขึ้น
เทคนิครับมือ 5 ส. เพื่อสายก่อสร้าง จากประสบการณ์ของคุณวรินทร์
- ส. สติ สิ่งแรกที่ควรทำไม่ว่าจะมีสถานการณ์อะไรเกิดขึ้น ก็คือการตั้งสติ เพื่อรับรู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น
- ส. สัญญา สิ่งที่กระทบอย่างแรกเมื่อเกิดสถานการณ์ใหญ่ อย่างการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 นี้ ก็คือ สัญญาก่อสร้าง เพราะเมื่อเกิดสภาวะที่ทำให้งานล่าช้า การจัดส่งวัสดุก่อสร้างยุ่งยากขึ้น ต้องกระทบต่อการก่อสร้างอย่างแน่นอน ดังนั้น ตัวผู้รับเหมาเองเมื่อตั้งสติได้แล้ว ควรมีการตรวจสอบรายละเอียดสัญญา วางแผน แล้วพูดคุยกับเจ้าของโครงการให้เข้าใจถึงสถานการณ์ที่กำลังเป็นอยู่ บริหารสัญญาให้ดีที่สุด เพื่อรักษาผลประโยชน์ของบริษัท โดยที่ผู้รับเหมาสามารถศึกษาสัญญา FIDIC ได้ (สัญญาเป็นรูปแบบมาตรฐานที่ใช้กันมากที่สุดของสัญญาการก่อสร้างระหว่างประเทศ)
- ส. เงินสด ด้วยปัจจุบันที่ทุกคนต้องการขายของราคาถูก ถ้าคุณมีเงินสดก็ย่อมไม่เสียเปรียบ เพราะทุกคนใน Supply Chain มีความต้องการเงินสด ทำให้การมีเงินสดไว้ช่วยให้อุ่นใจได้
- ส. น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า จากสถานการณ์ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าทุกส่วนใน Supply Chain ลำบากกันหมด ไม่ว่าจะเป็น Developer กังวลเรื่องขายได้ยาก หรือขายไม่ได้ ก็ส่งผลถึงผู้รับเหมาที่กำลังดำเนินโครงการ ผู้รับเหมาก็ได้รับผลกระทบเรื่องไม่มีเงินจ่าย ส่วนที่ซื้อวัสดุฯกับซัพพลายเออร์ ทุกส่วนกระทบกันหมด ทำให้วิธีที่ดีที่สุดคือการหันหน้าพูดคุยกันตรงๆ ปรึกษา เพื่อเอาตัวรอดจากวิกฤตไปด้วยกันให้ได้
- ส. สุดท้าย คือ สูดหายใจลึก ไม่ว่าจะมีวิกฤตอะไร ให้ระลึกไว้ว่าทุกปัญหามีทางออก ค่อยๆแก้ปัญหาไปทีละส่วน เพื่อให้ธุรกิจก้าวเดินต่อไปได้
อะไรคือสิ่งที่จะช่วยให้ธุรกิจรับเหมาอยู่รอดได้?
สิ่งที่ผู้รับเหมาควรทำหลังจากนี้ คือการบริหารเรื่อง Time – Cost – Quality ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
และนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยมากขึ้น จะช่วยลด Cost ในหลายๆส่วนได้ เพราะมีต้นทุนส่วนนี้ต่ำ ไม่ว่าจะเป็น การใช้เทคโนโลยีมาใช้ในการควบคุมต้นทุน การทำแบบ การสื่อสารภายใน/ภายนอกองค์กร การส่งงาน การตรวจงาน เทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องได้หมด ก็เพื่อช่วยให้ผู้รับเหมาเองบริหารธุรกิจรอดพ้นวิกฤตครั้งนี้ได้
อย่างผู้รับเหมาระดับ SMEs อยากให้ธุรกิจรับเหมาอยู่รอดไม่ว่าจะเกิดสภาวะแบบไหน ผู้รับเหมาก็ต้องควบคุมต้นทุนการก่อสร้างให้ได้ บิลค์ โปรแกรมควบคุมต้นทุนก่อสร้าง ตอบโจทย์ได้ดีในเรื่องการควบคุมต้นทุนก่อสร้าง นอกจากจะเป็นโปรแกรมที่ทำมาเพื่อช่วยผู้รับเหมา SMEs ได้บริหารต้นทุนโครงการก่อสร้างให้มุประสิทธิภาพแล้ว ตัวโปรแกรมยังออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานง่าย ใช้งานได้ทุกที่ ทุกเวลา เพราะใช้งานโปรแกรมแบบออนไลน์ สามารถเห็นรายงานโครงการได้อย่างชัดเจน รู้ว่าตอนนี้ต้นทุนโครงการกำลังเป็นอย่างไร ส่วนไหนกำลังเกินต้นทุนหรือไม่ ที่สำคัญ บิลค์โปรแกรมควบคุมต้นทุนก่อสร้าง เปิดให้ผู้รับเหมาใช้งานโปรแกรมได้ฟรี ฟรีตลอดการใช้งานครับ ขอฝากโปรแกรมดีๆเช่นนี้ไว้ด้วยนะครับ
สมัครใช้งานฟรี! BUILK โปรแกรมควบคุมต้นทุนก่อสร้าง สำหรับผู้รับเหมา
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม 02-101-2851