ในบทความนี้ทีมงาน BUILK จะพาทุกท่านมาดูกันครับว่า ภาพรวม สัดส่วนต้นทุน งานก่อสร้าง (Cost Structure) ของโครงการแต่ละประเภทในปี 2020 ที่ผ่านมา จะเป็นอย่างไรบ้าง ค่าวัสดุคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ ค่าแรงงานคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์
ข้อมูลที่นำมาแสดง ทีมงาน BUILK ได้รวบรวมข้อมูลและคำนวณหาค่าเฉลี่ยของสัดส่วนต้นทุนงานก่อสร้างกว่า 5,000 โครงการ จากฐานข้อมูลของผู้ใช้งานระบบเป็นประจำบน BUILK Cost Control จนกลายเป็น PRO NETWORK ซึ่งสัดส่วนต้นทุนของงานก่อสร้างทุกโครงการในระบบ ใช้วิธีการแบ่งประเภทต้นทุน ด้วยแนวทาง CBS (Cost Breakdown Structure) ซึ่งแบ่งต้นทุนออกเป็น 5 ประเภทหลัก ดังนี้
สัดส่วนต้นทุน โครงการ (Cost Structure) ในปี 2020
อธิบายจากภาพแบ่งเป็นแต่ละกลุ่มต้นทุน ดังนี้
1. กลุ่มต้นทุนค่าวัสดุ
– กลุ่มต้นทุนที่มีสัดส่วนมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของค่าใช้จ่ายในโครงการ ที่มีเปอร์เซ็นต์ที่สูงกว่า 50 % ของโครงการ
– โครงการที่มีสัดส่วนที่ใช้วัสดุมากที่สุดจะเป็นโครการประเภท หอพัก/คอนโดมิเนียม/ที่พักอาศัยแนวสุง จะหนักไปทาง ค่าวัสดุส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้จะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับงานโครงสร้าง อย่างเช่น คอนกรีต เหล็กโครงสร้าง
2. กลุ่มต้นทุนค่าแรงและกลุ่มจ้างเหมาช่วง
– กลุ่มต้นทุนค่าแรง ทั้งแรงงานในกิจการและแรงงานเหมาช่วง เมื่อนำมารวมกันกลุ่มต้นทุนกลุ่มนี้จะมีสัดส่วนค่าใช้จ่ายเป็นอันดับที่ 2 โดยมีค่าใช้จ่ายในโครงการประมาณ 30%
– โครงการที่มีสัดส่วนต้นทุนค่าแรงมากที่สุดจะเป็นโครการประเภท บ้าน/ทาวน์เฮาส์/ที่พักอาศัยแนวราบ ที่มีสัดส่วนการจ้างผู้รับเหมาช่วงที่มาก และจะเป็นผู้รับเหมางานระบบเป็นส่วนใหญ่
– ค่าแรงงานทั้งในกิจการและแรงงานเหมาช่วงส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับงานคอนกรีต
3. กลุ่มต้นทุนค่าดำเนินการ
– กลุ่มต้นทุนที่ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายสำนักงาน ค่าจ้างพนักงาน ค่าเดินทาง ต้นทุนทางการเงินต่างๆ คิดเป็นประมาณ 8% ของต้นทุนโครงการ
– โครงการที่มีสุดส่วนต้นทุนค่าดำเนินการมากที่สุดจะเป็นโครการประเภท โรงงาน/โกดัง ส่วนใหญ่เป็นการจ่ายค่าจ้างให้กับพนักงานในออฟฟิศ
– ต้นทุนในส่วนนี้สามารถควบคุมให้ลดต่ำลงได้ และเพิ่มประสิทธิภาพให้สูงขึ้นโดยมองหาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการ อีกทั้งยังช่วยลดระยะเวลาการทำงานลง ให้ทีมงานมีเวลามากขึ้นและสามารถทำอย่างอื่นที่ช่วยให้บริษัทพัฒนาไปข้างหน้าได้เร็วขึ้น
สรุปจากข้อมูลสัดส่วนต้นทุนโครงการในช่วงปี 2020 ที่ผ่านมา
1. ต้นทุนค่าวัสดุ เป็นกลุ่มต้นทุนที่ถูกนำไปใช้มากที่สุด เมื่อคิดเป็นสัดส่วนจะอยู่ที่ 55-60% จากต้นทุนทั้งหมดของโครงการ เพราะฉะนั้นเราควรให้ความสำคัญกับค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เป็นอย่างแรก แม้ว่าบริษัทจะมีฝ่ายจัดซื้อที่รับผิดชอบในเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่รู้หรือไม่ว่า ต้นทุนในส่วนนี้ยังมีช่องโหว่อยู่มาก อย่างเช่น หน้างานทำการขอซื้อของเร่งด่วน แล้วทำการซื้อของที่ใกล้ไซต์งานที่มีราคาสูง หรือแม้แต่จัดซื้อที่มีคอยทำเรื่องเอกสารอยู่ตลอด จนไม่มีเวลาในการเช็คราคาตลาด หรือหาร้านค้าใหม่ๆที่มีราคาดี มีความน่าเชื่อถือ เราจึงขอเสนอ
YELLO ผู้ช่วยฝ่ายจัดซื้อ (ร้านวัสดุก่อสร้างออนไลน์) เป็นบริการที่ทาง BUILK ทำขึ้นเพื่อประโยชน์ของพี่น้องผู้รับเหมาทุกท่าน เพราะเรามีเครือข่ายร้านค้าวัสดุก่อสร้างทั่วประเทศ และมีทีมงานคอยช่วยฝ่ายจัดซื้อตั้งแต่การเปรียบเทียบราคาที่ดีที่สุด รวมถึงการประสานงานจนกระทั่งของส่งถึงหน้าไซต์งาน โดยทางเราขอข้อมูลแค่ 3 อย่าง คือ สเปคสินค้า, จำนวนที่ต้องการ และ สถานที่จัดส่ง เท่านี้ทางทีมงานจะติดต่อกลับไปหาท่านภายใน 24 ชม. ทั้งหมดนี้สามารถเช็คราคากับทางเราได้ ฟรี (รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก)
2. ต้นทุนค่าแรงงาน และค่าจ้างผู้รับเหมาช่วง ทั้ง 2 ประเภทนี้ คิดเป็นสัดส่วนอยู่ที่ 28-34% จากต้นทุนทั้งหมด ในส่วนนี้ฝ่ายที่รับผิดชอบ คือ วิศวกร โฟร์แมน ที่ควบคุมไซต์งานก่อสร้าง โดยการลดต้นทุนในส่วนนี้ขึ้นอยู่ 3 ปัจจัยหลักๆ ของงานรับเหมา คือ เวลา (TIME) ต้นทุน (COST) และคุณภาพ (QUALITY) ที่จะต้องลงรายละเอียดตั้งแต่แผนงานที่สามารถวัดผลได้เป็นช่วงเวลา เช่น ตรวจสอบการทำงานรายวัน รายสัปดาห์ รวมถึงการเพิ่มความสามารถของบุคคลากรในหน้างาน เพื่อให้ใช้เวลาในการทำงานที่น้อยลง ความผิดพลาดลดลง เพื่อไม่ให้เกิดงานเพิ่ม หรืองานแก้ หากทำได้ทั้งหมดนี้จะส่งผลต่อต้นทุนทั้ง 2 ส่วนนี้อย่างแน่นอน
3. ต้นทุนค่าดำเนินการ ในส่วนนี้ผู้รับเหมาบางเจ้าอาจจะมองข้ามไป แต่รู้หรือไม่ว่าการบริหารค่าดำเนินการเป็นส่วนสำคัญเนื่องจากเป็นส่วนที่บริษัทจะเสียไปเรื่อยๆจนกว่าจะจบโครงการเช่น หน้างานมีปัญหาเข้าไปทำงานไม่ได้ ลูกค้าชะลอการจ่ายงวดงาน สิ่งเหล่านี้ยิ่งระยะเวลาที่เสียไปมากขึ้นแล้วงานไม่เสร็จไปตามเป้าหมาย ค่าดำเนินการที่ต้องจ่ายลูกน้องก็ยิ่งสูงขึ้น ถ้าควบคุมค่าดำเนินการไม่ได้ เงินในกระเป๋าจะเหลือน้อย ฉะนั้นบริษัทควรจะให้ความสำคัญกับค่าดำเนินการด้วยอีกส่วนนึง
มาเริ่มต้นใช้ BUILK โปรแกรมควบคุมต้นทุนงานก่อสร้าง เพราะเรื่องของต้นทุนเป็นเรื่องที่ต้องติดตามตลอดตั้งแต่เริ่มต้นโครงการจนส่งงานถึงมือลูกค้า และในการทำงานควรจะทำควบคู่กันระหว่างการดูแลหน้างาน และหลังบ้านที่ดูแลเรื่องเอกสาร เนื่องจากราคาวัสดุมีความผันผวนเป็นประจำ ทำให้กระทบกับต้นทุนโครงการ และผลกำไรของบริษัท ทีมงาน BUILK เชื่อว่าเมื่อผู้รับเหมามีข้อมูลต้นทุนอยู่ในมือที่สามารถดู และสามารถควบคุมได้จะช่วยให้ผู้รับเหมาเพิ่มกำไรได้มากขึ้น สามารถดูแลโครงการได้มากขึ้น และทำงานกันเป็นระบบมากขึ้น
สมัครใช้งานง่ายๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน
หากผู้รับเหมาท่านไหนยังรู้สึกว่าอยากเรียนรู้การใช้งานโปรแกรม BUILK ของเรา ตอนนี้ทางเราก็มีแหล่งรวบรวมข้อมูลผ่านการสอนเป็นรายหัวข้อผ่านระบบออนไลน์ (Online Training) ที่สามารถดูซ้ำที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ รวมถึงสามารถให้พนักงานรับชมกันภายในทั้งบริษัท
แต่หากต้องการทีมงานผู้เชี่ยวชาญของ BUILK เข้าไปวางระบบการทำงานบริษัทท่านบนโปรแกรม BUILK เราก็มีบริการ Workshop ที่บริษัทของท่าน และผ่านระบบออนไลน์ได้แล้ววันนี้
สุดท้ายพวกเราทีมงาน BUILK หวังว่าโปรแกรม Cost Control ของเรา จะเป็นตัวช่วยขับเคลื่อนให้กับกิจการของพี่น้องผู้รับเหมาทุกท่าน ฝ่าฟันอุปสรรคในปีนี้ไปได้ รวมถึงทำให้กิจการของทุกท่านเติบโตด้วยพื้นฐานที่แข็งแรง เติบโตไปพร้อมกันกับพวกเราชาว BUILK สู้ไปด้วยกันในปี 2021 นะครับ เพื่อเป็นประโยชน์รบกวนช่วยแชร์ให้กับเพื่อนๆ ผู้รับเหมาท่านอื่นด้วยนะครับ