หลายท่านอาจจะเคยได้ยินชื่อไม้ HMR (High Moisture Resistance board) ที่เป็นไม้กันชิ้นหรือไม้ทนชื้นตัวใหม่มาบ้าง หลายท่านมีโอกาสได้ลองใช้และสัมผัสถึงข้อดีต่างๆ ด้วยตัวท่านเอง สำหรับท่านที่ยังไม่เคยใช้อาจจะสงสัยว่า HMR ทนชื้นแล้วดีอย่างไร ใช้แทนวัสดุอื่นเช่นไม้อัดได้หรือไม่ วันนี้บิลค์ทีมจะมาเปรียบเทียบวัสดุทั้งคู่ให้ดูกันชัดๆค่ะ
HMR by อะโกรไฟเบอร์
ไม้อัดทั่วไป
ความแข็งแรง
MOR* > 45 – 60 N/mm2
ไม่แอ่น ไม่ดุ้ง แข็งแรง ไม่แตกหักง่าย
MOR > 45 – 70 N/mm2
แข็งแรง ไม่แตกหักง่าย
ความสม่ำเสมอของความหนา
+ไม่เกิน 0.2 mm
ผลิตโดยขึ้นรูปด้วยเยื่อ และขัดผิวให้ความหนาสม่ำเสมอ
+/- 0.3 mm
กระบวนการผลิตเป็นแบบการนำแผ่นไม้มาเรียงซ้อนหลายชั้น จึงมีความแปรปรวนสูง
ความเรียบของผิวหน้า
พื้นผิวเรียบ ลื่น ควบคุมคุณภาพความสม่ำเสมอ
ด้วยเครื่อง roughness meter
ผิวมีร่องเสี้ยน ลูบสะดุดมือ
ความทนทาน
ผลิตโดยใช้เทคโนโลยีกาวเมลามีนที่มีความแข็งแรงสูง
ผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน V313**
โดยทั่วไปจะใช้กาวยูเรียฟอร์มัลดีไฮด์ กาวชนิดนี้
มีความแข็งแรงและทนทานน้อยกว่ากาวเมลามีน
ราคา
HMR E2 หนา6 mm ราคา 300 บาท
ไม้อัดกันชื้นหนา 6mm ราคา 700 – 900 บาท
สรุป ข้อดีของไม้ HMR
สามารถทนความชื้นได้เทียบเท่าไม้อัดทั่วไป และเนื้อไม้มีความแน่นมาก สามารถตัดเจาะได้ไม่เป็นขุย ไม่ยุ่ยง่าย
เทคนิคการใช้งานไม้ HMR
สำหรับลูกค้าในกลุ่มที่ต้องการใช้งาน 6 mm ขอให้เพิ่มเทคนิคการปิดผิวเมลามีน 1หน้า หรือ 2 หน้าเพื่อเพิ่มความแข็งแรง และระวังระยะระยะโครงคร่าวต้องไม่เกิน 40×40 cm
โครงการดัง Intercontinental Chiangmai Mae Ping มั่นใจเลือกใช้ไม้ HMR กับงานทำ Backing ผนังตกแต่ง
- ปิดแผ่นผนัง backing ด้วยไม้ hmr ที่มีความเรียบเนียนทำให้ไม้ได้แนวระนาบ ไม่แอ่น ไม่ดุ้ง ระยะโครงคร่าวที่แนะนำคือ 40mm
- ปิดผนัง wallpaper ขนาดใหญ่ด้วยไม้ hmr ขนาด oversize (สั่งตัดพิเศษ) ลดจำนวนรอยต่อระหว่างแผ่น ทำให้งานปิดวอลเปเปอร์สวยงาม
เจ้าของโครงการ : Intercontinental
วัสดุที่ใช้ : ไม้ HMR by อะโกรไฟเบอร์
ผู้ผลิต : บริษัท อำนาจชัยกิจ อินทีเรีย จำกัด
https://app.builk.com/aumnajchaiyakijinterior
บริษัท อะโกรไฟเบอร์ จำกัด เป็นโรงงานผลิตและผลักดันสินค้า HMR เข้าสู่ตลาดบิ้วท์อินอย่างจริงจังเป็นรายแรกในประเทศไทยมาตลอดหลายปี มั่นใจและเชื่อมั่นได้เลยว่าสินค้าดีและมีคุณภาพจริง